

ไมค์กี้ เซเบอร์ อดีตดาราหนังโป๊ที่พบว่าตัวเองอยู่ในลอสแองเจลิสและต้องตกที่นั่งลำบาก จึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่เท็กซัสซิตี รัฐเท็กซัส ซึ่งภรรยาและแม่สามีที่แยกกันอยู่ของเขาอาศัยอยู่ที่นั่น ในขณะที่ครอบครัวที่มีปัญหาดูเหมือนจะพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ไมค์กี้ได้พบกับหญิงสาวชื่อสตรอว์เบอร์รีที่ทำงานเป็นแคชเชียร์ในร้านโดนัทแห่งหนึ่งสวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Movie24HD และคอหนังสายอินดี้ที่รักความแปลกใหม่ทุกท่าน! กลับมาพบกับผมอีกครั้งในพื้นที่รีวิวหนังแบบเจาะลึก ถึงพริกถึงขิง และแน่นอนว่าเราไม่เน้นการเล่าเรื่องย่อแบบน่าเบื่อ แต่เราจะพาคุณไป “ถอดรหัส” งานศิลปะบนแผ่นฟิล์มกัน
วันนี้ผมมีภาพยนตร์จากค่าย A24 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความ “เปรี้ยว” และ “คุณภาพ” มานำเสนอ นั่นคือ “Red Rocket (2021)” หรือในชื่อไทยทับศัพท์ว่า “เรด ร็อคเก็ต”นี่คือผลงานของผู้กำกับ Sean Baker (จาก The Florida Project) ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งการถ่ายทอดชีวิตคนชายขอบอเมริกัน แต่คราวนี้เขามาพร้อมกับความตลกร้ายที่แสบสัน ยียวน และน่าอึดอัดใจที่สุด โดยได้ Simon Rex อดีต VJ และแร็ปเปอร์ชื่อดังมารับบทนำที่นักวิจารณ์ทั่วโลกต่างยกย่องว่า “นี่คือบทบาทแห่งชีวิตของเขา”ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้รับเสียงปรบมือยาวนาน 5 นาทีที่เมืองคานส์? ทำไมคนดูถึงทั้งรักทั้งเกลียดตัวเอกของเรื่อง? วันนี้ผมจะพาไปหาคำตอบกันที่ ดูหนังออนไลน์ ครับ!

Description:เจาะลึกรีวิว Red Rocket (2021) หนัง A24 ที่แสบที่สุดแห่งปี! วิเคราะห์การแสดงระดับเทพของ Simon Rex ในบทแมงดาปีกทอง และงานภาพ 16mm ที่สวยจนลืมหายใจ อ่านบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ Movie24HD (ภาพประกอบ: Mikey Saber กับจักรยานคู่ใจ ท่ามกลางฉากหลังโรงกลั่นน้ำมันและท้องฟ้าสีสด)
หากคุณคุ้นเคยกับหนังฮอลลีวูดที่ตัวเอกล้มแล้วลุก สู้ชีวิตจนประสบความสำเร็จ… ขอให้ลืมภาพเหล่านั้นไปก่อนครับ เพราะ Red Rocket คือด้านกลับของเหรียญ มันคือเรื่องราวของ Mikey Saber (Simon Rex) ดาราหนังผู้ใหญ่ที่ตกอับจนต้องซมซานกลับบ้านเกิด แต่แทนที่เขาจะสำนึกผิดหรือเริ่มต้นใหม่ เขากลับมองหา “เหยื่อ” รายใหม่เพื่อใช้เป็นบันไดไต่กลับไปสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้งหนังเรื่องนี้เปรียบเสมือนรถไฟเหาะทางอารมณ์ มันทำให้คุณหัวเราะร่าในความกะล่อนของตัวเอก แต่ในวินาทีถัดมา คุณอาจจะรู้สึกขยะแขยงกับการกระทำของเขา นี่คือมนต์เสน่ห์ของ Sean Baker ที่ทำให้เราละสายตาจากจอไม่ได้ วันนี้ Movie24HD จะพาคุณไปเจาะลึกถึงแก่นแท้ของหนังเรื่องนี้ ว่าทำไมมันถึงเป็น Must Watch สำหรับคอหนังคุณภาพ
Sean Baker ผู้กำกับเรื่องนี้ เชี่ยวชาญมากในการเล่าเรื่องของคนตัวเล็กๆ ในสังคม (Marginalized People) แต่ใน Red Rocket เขาเลือกที่จะเล่าผ่านมุมมองของ Anti-Hero หรือจะเรียกว่า Villain Protagonist ก็คงไม่ผิดนัก
บทหนังสร้างตัวละคร Mikey ออกมาได้ซับซ้อนและน่าสนใจมาก เขาคือภาพสะท้อนของ Narcissist (คนหลงตัวเอง) ขั้นรุนแรง
การเอาตัวรอด: Mikey เป็นเหมือนแมลงสาบที่ไม่มีวันตาย เขามีวาทศิลป์เป็นเลิศ สามารถพูดดำให้เป็นขาว พูดให้คนอื่นตายใจได้เสมอ บทหนังทำให้เราเห็นว่า “คำพูด” คืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด
The Hustle Culture: หนังตั้งคำถามกับวัฒนธรรมการ “สู้ชีวิต” ของอเมริกา Mikey พยายามทำทุกอย่างเพื่อความสำเร็จ แต่สิ่งที่เขาทำคือการขูดรีด (Exploitation) คนรอบข้าง ทั้งเมียเก่า แม่ยาย และเด็กสาวที่เขากำลังปั้น นี่คือด้านมืดของทุนนิยมที่ใครมือยาวสาวได้สาวเอา
หนังฉลาดมากที่เลือกไทม์ไลน์เป็นช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 เราจะเห็นข่าวของ Donald Trump แทรกเข้ามาในทีวีตลอดเวลา
Sean Baker ไม่ได้บอกโต้งๆ ว่าเขาคิดยังไง แต่เขาเปรียบเทียบกลายๆ ว่า Mikey Saber ก็เหมือนนักการเมืองประเภทหนึ่ง: นักขายฝันที่พูดจาไพเราะ แต่เนื้อในกลวงโบ๋และเห็นแก่ตัว การซ้อนทับกันของสองสิ่งนี้ทำให้หนังมีมิติทางการเมืองที่แสบสัน
ความสัมพันธ์ในเรื่องขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ Mikey กลับมาเกาะเมียกิน และเมื่อเจอ Strawberry (Suzanna Son) เด็กสาวร้านโดนัท เขาก็มองเห็นเธอเป็น “ตั๋วทอง” ที่จะพาเขากลับ LA หนังตีแผ่พฤติกรรม Grooming (ล่อลวงเด็ก) ได้อย่างน่าขนลุก ภายใต้หน้ากากของความรักและความหวังดี
ถ้าหนังเรื่องนี้ไม่มี Simon Rex มันอาจจะเป็นแค่หนังดราม่าธรรมดา แต่การมีเขาอยู่ทำให้หนังเรื่องนี้มี “พลังงาน” ที่ล้นทะลัก
Energy: ตลอดทั้งเรื่อง Mikey แทบไม่อยู่นิ่ง เขาพูดไม่หยุด เดินไม่หยุด พลังงานของ Simon Rex ขับเคลื่อนหนังให้เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว (Fast-Paced) แม้จะเป็นหนังคุยกันเยอะ แต่ไม่น่าเบื่อเลย
Physical Comedy: ฉากที่เขาวิ่งแก้ผ้าหนีออกจากบ้าน หรือท่าทางการปั่นจักรยาน มันมีความตลกแบบการ์ตูน (Cartoonish) ที่มาเบรกความตึงเครียดของเนื้อหา ทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครนี้น่าสมเพชมากกว่าน่ากลัว
Layered Performance: ภายใต้รอยยิ้มและการพูดจาคะขา Simon Rex ซ่อนแววตาของ “นักล่า” เอาไว้ เขาทำให้คนดูรู้สึกสับสนว่า “เราควรจะเชียร์มันดีไหม?” ซึ่งเป็นสิ่งที่นักแสดงน้อยคนจะทำได้
สิ่งที่ทำให้ Red Rocket โดดเด่นกว่าหนังดราม่าทั่วไป คือ งานภาพ ครับ Sean Baker เลือกใช้ฟิล์ม 16mm ในการถ่ายทำ และใช้เลนส์ Anamorphic ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง
หนังใช้สีที่สดมาก (Saturated Colors) ท้องฟ้าสีฟ้าจัด หญ้าสีเขียว บ้านเรือนสีลูกกวาด มันดูเหมือนหนังวัยรุ่นสดใส หรือมิวสิควิดีโอเพลงป๊อป
แต่สิ่งที่อยู่ในเฟรมคือ โรงกลั่นน้ำมัน, ปล่องควัน, บ้านรูหนู, และร้านโดนัทโทรมๆ
Contrast: ความขัดแย้งระหว่าง “ภาพที่สวยงาม” กับ “ชีวิตที่พังทลาย” คือศิลปะชั้นยอด มันบอกเราว่า แม้โลกจะดูสดใสแค่ไหน แต่สำหรับคนกลุ่มนี้ มันคือกับดักที่สวยหรู
หนังถ่ายทำที่ Texas City ซึ่งเต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรม ฉากหลังที่เป็นท่อส่งน้ำมันและควันไฟ กลายเป็นตัวละครหนึ่งของเรื่อง มันสื่อถึงความอึดอัด มลภาวะ และความจริงที่ว่าตัวละครเหล่านี้เป็นเพียง “ฟันเฟือง” ที่ชำรุดในระบบใหญ่
การถ่ายทำแบบ Handheld (ถือกล้องถ่าย) ในหลายๆ ฉาก ให้ความรู้สึกสมจริงเหมือนสารคดี (Docudrama) แต่มีการจัดองค์ประกอบภาพที่เนี้ยบกริบ โดยเฉพาะฉากกว้างๆ ที่เห็น Mikey ตัวเล็กนิดเดียวท่ามกลางโรงงานยักษ์
Red Rocket ไม่ใช่หนังตลกคาเฟ่ แต่เป็น Dark Comedy ชั้นดี
ความฮา: มาจากความ “หน้าด้าน” ของ Mikey การที่เขาโกหกหน้าตาย หรือพยายามทำตัวเป็นพระเอกในสถานการณ์ที่ตัวเองเป็นตัวร้าย มันตลกเพราะมัน Absurd (ไร้สาระ) เกินจริง
ความอึดอัด (Cringe): คุณจะรู้สึกจิกเท้าตลอดเวลาเมื่อเห็น Mikey พยายามจีบเด็กสาว หรือพยายามเกลี้ยกล่อมแม่ยาย มันเป็นความบันเทิงแบบ Guilty Pleasure ที่เราแอบดูพฤติกรรมแย่ๆ ของคนอื่น
จังหวะหนัง (Pacing): หนังตัดต่อไวและใช้เพลงประกอบได้จี๊ดจ๊าดมาก โดยเฉพาะเพลง “Bye Bye Bye” ที่ถูกนำมาใช้ในบริบทใหม่ กลายเป็นเพลงธีมของความหายนะที่กำลังคืบคลานเข้ามา
เพื่อให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจน เรามาดูคะแนนจากเวทีระดับโลกกันครับ
| แหล่งข้อมูล | คะแนน/ความเห็น |
| Rotten Tomatoes | 90% Certified Fresh (นักวิจารณ์ชอบมาก) |
| Cannes Film Festival | Standing Ovation 5 นาที (เข้าชิง Palme d’Or) |
| IMDb | 7.1 / 10 (คะแนนดีสำหรับหนังอินดี้) |
| Movie24HD Review | 9/10 ยกให้เป็นหนัง A24 ที่สนุกและเข้าถึงง่ายที่สุดเรื่องหนึ่งของ Sean Baker |
หากคุณเป็นสายเสพงานศิลป์ หรือชอบฟังการวิเคราะห์สัญญะในหนัง ลองไปดูคลิปจากช่อง ดูครับ สองช่องนี้มักจะหยิบหนัง A24 มาคุยได้สนุกมาก
ถ้าคุณกำลังมองหาหนังที่:
แปลกใหม่: ไม่ซ้ำซากจำเจแบบหนังสูตรสำเร็จ
การแสดงเทพ: อยากเห็นคนเล่นเป็นคนเลวได้น่ารักน่าชัง
งานภาพสวย: เสพงานศิลป์แบบ A24
“Red Rocket คือหนังที่คุณต้องดูครับ!” มันคือบทบันทึกของความล้มเหลวที่งดงาม และเป็นเครื่องเตือนใจว่า บางครั้ง “จรวด” ที่พุ่งทะยานขึ้นฟ้า อาจจะกำลังพาทุกคนไปสู่หายนะก็ได้ หนังเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่หนัง Feel Good ที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ แต่มันคือหนัง Feel Real ที่จะทำให้คุณตาสว่างและจดจำตัวละคร Mikey Saber ไปอีกนาน
คะแนนจาก Movie24HD:
🎬 บทภาพยนตร์: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5)
🎭 การแสดง: ⭐⭐⭐⭐⭐ (5/5) Simon Rex ยืนหนึ่ง
📸 งานภาพ: ⭐⭐⭐⭐ (4.5/5)
😂 ความบันเทิง: ⭐⭐⭐⭐ (4/5)
Q1: หนังเรื่องนี้เป็นหนังโป๊ไหม? A: ไม่ใช่หนังโป๊ครับ! แม้ตัวเอกจะมีอาชีพเป็นดาราหนังผู้ใหญ่ และมีเนื้อหาเกี่ยวกับวงการนี้ แต่หนังไม่มีฉากร่วมเพศแบบโจ่งแจ้ง (Hardcore) เป็นหนังดราม่า-คอมเมดี้ที่มีเรต R เพราะภาษาและเนื้อหาทางเพศ แต่เน้นที่การเล่าเรื่องชีวิตครับ
Q2: Simon Rex คือใคร ทำไมถึงดังจากเรื่องนี้? A: เขาเคยเป็น VJ ของ MTV, แร็ปเปอร์ (Dirt Nasty), และเล่นหนังล้อเลียนอย่าง Scary Movie ครับ การที่เขามารับบทดราม่าหนักๆ ในเรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญและทำได้ดีจนน่าตกใจ
Q3: เหมาะกับดูเป็นครอบครัวไหม? A: ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ! หนังมีเนื้อหาล่อแหลม คำหยาบ และประเด็นเรื่องศีลธรรมที่ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชน ควรดูคนเดียวหรือดูกับเพื่อนคอหนังครับ
Q4: หาดู Red Rocket แบบภาพชัด ซับไทยดีๆ ได้ที่ไหน? A: คุณสามารถรับชมความแสบสันของ Mikey Saber ได้ที่เว็บไซต์ https://movie24hd.net/ ของเราครับ ภาพสวยคมชัดตามต้นฉบับ A24 แน่นอน
ถ้าคุณดู Red Rocket จบแล้วติดใจสไตล์นี้ ลองไปต่อกับเรื่องเหล่านี้ครับ:
The Florida Project (2017) – ผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับคนเดียวกัน เล่าเรื่องเด็กๆ ในโรงแรมราคาถูกใกล้ดิสนีย์แลนด์ สดใสแต่เจ็บปวด
Uncut Gems (2019) – หนัง A24 อีกเรื่องที่ตัวเอก (Adam Sandler) เป็นพวกเสพติดความเสี่ยงและพาตัวเองไปสู่หายนะ ดูแล้วเครียดแต่มันส์
Boogie Nights (1997) – ตำนานหนังวงการหนังผู้ใหญ่ยุค 70s ที่มีมิติและคลาสสิก
Tangerine (2015) – หนังแจ้งเกิด Sean Baker ที่ถ่ายด้วย iPhone ทั้งเรื่อง ดิบและตลกมาก
Zola (2020) – หนังจากทวิตเตอร์ดราม่า การเดินทางของสาวนักเต้นเปลื้องผ้าที่บ้าบอคอแตก
Red Rocket เปรียบเสมือนพลุไฟที่จุดกลางวันแสกๆ มันอาจจะดูแปลกประหลาด แต่มันดึงดูดสายตาและทิ้งควันจางๆ ให้เราได้ขบคิดถึงสังคมที่เราอยู่อย่าเชื่อคำรีวิวของผมเพียงอย่างเดียว… ไปพิสูจน์ความกะล่อนของ Mikey Saber ด้วยตาของคุณเองที่ movie24hd แล้วคุณจะรู้ว่า ทำไมโลกนี้ถึงขาดคนอย่างเขาไม่ได้ (แม้เราจะเกลียดเขาแค่ไหนก็ตาม)!