

หัวหน้าหน่วยสอบสวนอาชญากรรมใช้วิธีการผิดกฎหมายในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ตำรวจมือใหม่ผู้ยึดมั่นในหลักการเข้าร่วมทีมของเขา นี่คือบทความรีวิวเจาะลึกภาพยนตร์เกาหลีสุดเข้มข้น “The Policeman’s Lineage (2022)” หรือชื่อไทย “คนหักคน” เขียนในสไตล์นักวิจารณ์ภาพยนตร์มืออาชีพของ Movie24hd ที่เน้นความลึกซึ้งของเนื้อหา วิเคราะห์เหลี่ยมคมของตัวละคร และงานภาพที่สวยงาม เพื่อให้ผู้อ่านได้รับอรรถรสสูงสุดและเข้าใจแก่นแท้ของหนังครับMeta Title: รีวิว The Policeman’s Lineage (2022) : เมื่อความยุติธรรมสีเทา ปะทะ อุดมการณ์สีขาว | Movie24hd Meta Description: เจาะลึกรีวิว The Policeman’s Lineage (คนหักคน) หนังอาชญากรรมเกาหลีที่เชือดเฉือนด้วยบทบาทของ โชจินอุง และ ชเวอูชิก เมื่อตำรวจดีต้องจับตำรวจเลว หรือความจริงไม่มีสีขาวดำ? อ่านรีวิวหนังคุณภาพได้ที่ Movie24hd

สวัสดีครับเพื่อนๆ คอหนังสายดาร์กและแฟนคลับหนังเกาหลีทุกคน ยินดีต้อนรับสู่พื้นที่ของคนรักหนัง Movie24hd ครับ วันนี้ผมมีความตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะหยิบยกหนังเกาหลีแนว Crime-Drama-Thriller ที่ผมยกให้เป็น “เพชรเม็ดงาม” แห่งปี 2022 มาพูดคุยกันนั่นคือ “The Policeman’s Lineage” หรือในชื่อไทยที่ดุเดือดว่า “คนหักคน” ถ้าคุณคิดว่านี่คือหนังตำรวจไล่จับผู้ร้าย ยิงกันหูดับตับไหม้แบบหนังแอ็กชันทั่วไป… ผมขอบอกว่า “หยุดก่อนครับ” เพราะหนังเรื่องนี้มันลึกซึ้งและ “คลาสสิก” กว่านั้นมาก มันคือการปะทะกันทางความคิด การเชือดเฉือนด้วยจิตวิทยา และการตั้งคำถามที่สั่นคลอนความเชื่อของเราว่า “เพื่อจะจับปีศาจ เราต้องกลายเป็นปีศาจเสียเองหรือไม่?”วันนี้เราจะมาแกะกล่องรีวิวกันแบบละเอียด ยิบย่อยถึงเนื้อใน อารมณ์ภาพ และการแสดงระดับเทพของสองนักแสดงนำ ว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงครองใจผู้ชม และทำไมคุณถึงควรดูสักครั้งในชีวิต ถ้าพร้อมแล้ว ตามผมมาครับ
| หัวข้อ | รายละเอียด |
| ชื่อเรื่อง | The Policeman’s Lineage (คนหักคน) |
| ปีที่ฉาย | 2022 |
| ประเภท | Crime, Drama, Mystery |
| ผู้กำกับ | Lee Kyu-man |
| นักแสดงนำ | Cho Jin-woong (โชจินอุง), Choi Woo-shik (ชเวอูชิก) |
| ความยาว | 1 ชั่วโมง 59 นาที |
| ต้นฉบับ | ดัดแปลงจากนิยายญี่ปุ่น “Blood of the Policeman” |
| ช่องทางรับชม | ติดตามลิงก์ดูหนังภาพชัดได้ที่ Movie24hd.net |
หนังเกาหลีขึ้นชื่อเรื่องการทำหนังแนวอาชญากรรมได้ “ถึงเครื่อง” อยู่แล้ว แต่ The Policeman’s Lineage เลือกที่จะเดินเกมต่างออกไป หนังไม่ได้เน้นความรุนแรงทางกายภาพ แต่เน้น ความรุนแรงทางความคิด
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ ชเวมินแจ (รับบทโดย Choi Woo-shik) ตำรวจหนุ่มไฟแรงผู้ยึดมั่นในกฎระเบียบแบบ “ไม้บรรทัดเรียกพี่” ถูกหน่วยกิจการภายในบีบให้ไปเป็นสายลับ (Mole) เพื่อจับตามอง พัคคังยุน (รับบทโดย Cho Jin-woong) หัวหน้าทีมสืบสวนอาชญากรรมยาเสพติดระดับตำนาน ผู้ซึ่งมีผลงานการจับกุมยอดเยี่ยม แต่กลับมีเบื้องหลังที่น่าสงสัย ทั้งการใช้ของแบรนด์เนม ขับรถหรู และแหล่งเงินทุนที่ไม่โปร่งใส
แก่นแท้ของหนังเรื่องนี้คือการโยนคำถามใส่หน้าคนดูว่า:
ฝ่ายแรก (ชเวมินแจ): เชื่อว่า “กระบวนการต้องโปร่งใส” ถ้าเราใช้วิธีสกปรกจับโจร เราก็ไม่ต่างจากโจร ความถูกต้องต้องมาก่อนผลลัพธ์
ฝ่ายที่สอง (พัคคังยุน): เชื่อว่า “ผลลัพธ์สำคัญที่สุด” ยอมทำทุกอย่าง ยอมเปื้อนโคลน ยอมรับเงินใต้โต๊ะ เพื่อเอาเงินนั้นไปเป็นทุนในการจับ “ปลาตัวใหญ่กว่า”
หนังทำได้ยอดเยี่ยมในการทำให้เรา “สับสน” ครับ ในช่วงแรกเราจะเข้าข้างมินแจ ว่าตำรวจต้องขาวสะอาดสิ แต่พอดูไปเรื่อยๆ หนังจะค่อยๆ เผยให้เห็นโลกแห่งความจริงที่โหดร้ายว่า บางครั้งกฎหมายก็เอื้อมไม่ถึงอาชญากรระดับบิ๊ก และวิธีของคังยุนอาจจะเป็น “ทางออกเดียว” หรือเปล่า?
เคมีระหว่างสองตัวละครหลักคือสิ่งที่ขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่หัวหน้ากับลูกน้อง แต่มันมีความซับซ้อน มินแจเข้าไปเพื่อจับผิด แต่คังยุนกลับดูแลมินแจอย่างดี (อาจจะเพราะรู้ทัน หรือเพราะเอ็นดูจริงๆ) มันมีความ Suspense ตลอดเวลาว่า “เขารู้ตัวหรือยัง?” และ “ตกลงเขาเป็นคนดีหรือคนเลว?”
ต้องเตือนไว้ก่อนว่า หนังเรื่องนี้บทแน่นมาก มีรายละเอียดเรื่องการสืบสวน เส้นทางการเงิน และตัวละครมาเฟียที่เยอะพอสมควร ไม่ใช่หนังดูผ่านๆ แล้วจะเข้าใจ ต้องใช้สมาธิในการปะติดปะต่อเรื่องราว แต่นั่นคือเสน่ห์ครับ มันทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังร่วมสืบคดีไปกับตัวละครจริงๆ
ถ้าบทหนังคือโครงกระดูก การแสดงของสองดารานำก็คือเนื้อหนังมังสาที่ทำให้ The Policeman’s Lineage มีชีวิตชีวาและทรงพลัง
คนนี้คือ “The Best” ของเรื่องครับ โชจินอุง (จาก Signal) มอบการแสดงที่น่าเกรงขามและทรงเสน่ห์สุดๆ
บุคลิกภาพ: เขาทำให้ตัวละครพัคคังยุนดูเป็นคนที่มี “อำนาจ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่อำนาจจากยศ แต่เป็นอำนาจจากบารมี (Charisma) ทุกครั้งที่เขาเดินเข้ามาในฉาก พร้อมสูทตัดเข้ารูปและท่าทางที่มั่นใจ มันสะกดคนดูได้อยู่หมัด
ความลึกของอารมณ์: ภายใต้ความแข็งแกร่ง เราจะเห็นแววตาที่เหนื่อยล้า แววตาของคนที่แบกโลกไว้ทั้งใบ คนที่ยอมเป็นคนเลวในสายตาคนอื่นเพื่อปกป้องประชาชน เขาทำให้เราเชื่อว่า นี่คือ “ปีศาจที่จำเป็น” (Necessary Evil)
หลายคนจำเขาได้จาก Parasite และ Our Beloved Summer ที่มักรับบทหนุ่มน้อยน่าเอ็นดู แต่เรื่องนี้เขาพลิกบทบาทได้น่าสนใจมาก
พัฒนาการตัวละคร: ช่วงแรกเขาเล่นเป็นตำรวจตงฉินที่ดูแข็งทื่อ (ซึ่งตรงกับบท) แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป สายตาของเขาเริ่มเปลี่ยน จากความมั่นใจเป็นความสับสน และสุดท้ายคือความเข้าใจโลก ชเวอูชิกถ่ายทอดความอึดอัดของคนที่ต้องเลือกระหว่าง “หน้าที่” กับ “มโนธรรม” ได้อย่างละเอียดอ่อน
เคมีกับรุ่นพี่: การที่เขาต้องประชันบทบาทกับนักแสดงรุ่นใหญ่อย่างโชจินอุง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ชเวอูชิกทำได้ดี เขาไม่ถูกกลบ แต่กลับเป็นตัวรับส่งที่สมบูรณ์แบบ
งานภาพของเรื่องนี้ต้องบอกว่า “เท่” และ “มีสไตล์” (Stylish) มากๆ ครับ มันให้อารมณ์ Neo-Noir ที่ทันสมัย
Costume Design: ผมขอยกให้เป็นหนังที่ตำรวจแต่งตัวดีที่สุดเรื่องหนึ่ง! การที่พัคคังยุนใส่สูทหรูราคาแพง นั่งรถสปอร์ต ไม่ใช่แค่เพื่อความเท่ แต่เป็น Visual Storytelling ที่บอกว่าเขา “กลมกลืน” ไปกับเหล่าอาชญากร เส้นแบ่งระหว่างตำรวจกับโจรมันเบลอไปหมดแล้วแม้แต่เครื่องแต่งกาย
Cinematography (การกำกับภาพ):
แสงและเงา: หนังใช้แสงเงาเยอะมากเพื่อสื่อถึงความลึกลับและความไม่ชัดเจน (Moral Ambiguity) ฉากส่วนใหญ่อยู่ในเวลากลางคืน ผับบาร์ หรือห้องสืบสวนที่แสงสลัว
มุมกล้อง: มักใช้มุมที่ทำให้ตัวละครดูโดดเดี่ยว หรือมุมที่กดดัน มีความนิ่งแต่ทรงพลัง สื่อถึงความตึงเครียดที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
Production Design: ฉากสโมสรลับ ฉากวิลล่าหรู หรือแม้แต่สถานีตำรวจ ถูกเซตออกมาได้สมจริงและดูแพง สะท้อนโลกของอาชญากรรมระดับสูง (White-collar crime) ได้ดี
จากคะแนนในเว็บไซต์ต่างประเทศและเสียงตอบรับในไทย ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางบวก โดยเฉพาะในแง่ของการแสดงและบรรยากาศ
“หนังไม่ได้บอกว่าใครถูกใครผิด แต่ให้คนดูตัดสินเอาเองว่า ในโลกที่เน่าเฟะ เราต้องการตำรวจแบบไหน?”
จุดที่น่าสังเกต (ข้อดี/ข้อเสีย):
ข้อดี: การแสดงระดับ Masterclass, งานภาพสวย, บทที่ชวนคิดตาม, ตอนจบที่คมคาย
ข้อสังเกต: การเดินเรื่องช่วงแรกอาจจะดูเนิบช้าไปบ้างสำหรับคนที่คาดหวังฉากบู๊ล้างผลาญ และรายละเอียดคดีที่ซับซ้อนอาจจะต้องดูซ้ำหรือตั้งใจดูมากๆ ถึงจะเก็บหมด
ถ้าคุณยังลังเล ผมสรุปเหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด The Policeman’s Lineage ครับ:
ถ้าคุณชอบหนังแนว “เฉือนคม”: เรื่องนี้คือการต่อสู้ด้วยสมองและไหวพริบ ไม่มีใครยอมใคร
ถ้าคุณชอบ “Infernal Affairs” หรือ “New World”: กลิ่นอายของเรื่องนี้คล้ายกันมาก คือเรื่องของสายลับและความไว้ใจ
เสพงานศิลป์: แค่ดูสูทสวยๆ รถหรูๆ และการจัดแสงเท่ๆ ก็คุ้มแล้ว
บทเรียนผู้นำ: คุณจะได้เห็นภาวะผู้นำในแบบของพัคคังยุน ที่ยอมแบกรับความเสี่ยงเพื่อลูกน้อง
เพื่อตอบโจทย์เพื่อนๆ ที่อาจจะมีข้อสงสัย ผมรวบรวมคำถามยอดฮิตมาไว้ตรงนี้ครับ
Q1: The Policeman’s Lineage มีฉากบู๊เยอะไหม? A: มีบ้างครับ แต่ไม่ใช่หนัง Action จ๋าแบบ The Roundup หรือ The Outlaws จะเน้นไปที่ Drama และ Thriller การสืบสวนสอบสวนและการชิงไหวชิงพริบมากกว่า
Q2: ต้องดูภาคอื่นมาก่อนไหม? A: ไม่ต้องครับ เป็นหนังจบในตอน (Standalone) แม้จะดัดแปลงมาจากนิยายที่มีภาคต่อ แต่ตัวหนังเล่าเรื่องจบสมบูรณ์ในตัวครับ
Q3: ใครคือตัวร้ายที่แท้จริงในเรื่อง? A: นี่คือเสน่ห์ของเรื่องครับ “ตัวร้าย” ในเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่แค่คน แต่อาจจะเป็น “ระบบ” หรือ “สถานการณ์” ที่บีบคั้น หรืออาจจะเป็นตัวตำรวจเอง? ต้องไปพิสูจน์ครับ
Q4: หาดูรีวิวแบบเจาะลึกเพิ่มเติมได้ที่ไหน? A: นอกจากบทความนี้ เพื่อนๆ สามารถไปติดตามช่อง Youtube ที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเราได้เพื่อดูคอนเทนต์วิเคราะห์หนังดีๆ ครับ:
Q5: หนังมีพากย์ไทยไหม? A: ส่วนใหญ่จะมีทั้งซับไทยและพากย์ไทยครับ แต่ส่วนตัวแนะนำ ซับไทย เพื่อฟังเสียงต้นฉบับและการใช้น้ำเสียงที่ดุดันของโชจินอุง จะได้อารมณ์กว่ามาก!
ถ้าดูจบแล้วอารมณ์ค้าง ชอบแนวนี้ ลองไปหาเรื่องเหล่านี้ดูต่อที่เว็บเราได้เลยครับ:
New World (2013): ตำนานหนังสายลับเกาหลีที่ขึ้นหิ้งตลอดกาล
Infernal Affairs (2 คน 2 คม): ต้นฉบับหนังแนวสายลับเฉือนคมจากฮ่องกง
Believer (2018): หนังไล่ล่าราชายาเสพติดที่เข้มข้นและบ้าคลั่ง (โชจินอุงเล่นด้วย!)
The Policeman’s Lineage (คนหักคน) คือหนังที่ย้ำเตือนเราว่า ในโลกความเป็นจริง เส้นแบ่งระหว่างสีขาวกับสีดำมันช่างเลือนลางเหลือเกิน การจะเป็น “คนดี” ในระบบที่เน่าเฟะ บางครั้งก็ต้องยอมเปื้อนเลือด สำหรับคะแนนรีวิวจาก Movie24hd ผมขอมอบให้ที่ 8.5/10 คะแนน สำหรับความเข้มข้น ความเท่ และการแสดงที่ไร้ที่ติ หักคะแนนเล็กน้อยที่ความซับซ้อนของบทที่อาจจะเข้าใจยากในบางจุด เพื่อนๆ ดูแล้วอยู่ทีมไหนครับ? #ทีมพัคคังยุน (ผลลัพธ์สำคัญกว่า) หรือ #ทีมชเวมินแจ (ความถูกต้องต้องมาก่อน)? คอมเมนต์พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้เลย และถ้าไม่อยากพลาดหนังดีๆ แบบนี้ อย่าลืมแวะเข้ามาเช็คหนังใหม่และหนังชนโรงภาพชัดแจ๋วได้ที่ https://movie24hd.net/ นะครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า ผมสัญญาว่าจะคัดหนังเด็ดๆ มาเสิร์ฟให้อีกแน่นอน สำหรับวันนี้… สวัสดีครับ! 🚓🎥