

The Ugly (2025) หน้าเกลียด ดงฮวาน ได้รับมรดกตกทอดเป็นสตูดิโอแกะสลักตราประทับมาจากพ่อผู้เป็นศิลปิน เขามุ่งที่จะเดินตามรอยพ่อของเขาในฐานะของปรมาจารย์ที่เอาชนะความบกพร่องทางร่างกาย และมีบทบาทในสารคดีให้ได้ แต่เส้นทางดังกล่าวกับผลิกผันอย่างไม่คาดคิด เมื่อร่างที่เหลืออยู่ของหญิงผู้ภรรยาและแม่ของพวกเขาถูกค้นพบ หลังจากเวลาผ่านไปสี่สิบปี ในขณะที่ ดงฮวาน ขุดค้นอดีตที่ถูกเก็บซ่อนมาอย่างนาวนานของครอบครัว เขาก็ได้เปิดเผยเรื่องราวของหญิงคนหนึ่ง ที่ใบหน้าถูกลบเลือนออกไปจากความทรงจำร่วม และถูกจดจำเพียงแค่ในฐานะของปีศาจอัปลักษณ์
หากคุณคิดว่า ยอนซังโฮ (Yeon Sang-ho) มีดีแค่หนังซอมบี้อย่าง Train to Busan หรือ Hellbound คุณต้องคิดใหม่! เพราะในปี 2025 เขากลับมาพร้อมกับ “The Ugly (หน้าเกลียด)” หนังระทึกขวัญเชิงจิตวิทยาที่เล่นกับ “เปลือกนอก” และ “สันดานดิบ” ของมนุษย์ได้อย่างเจ็บแสบ หนังเรื่องนี้ไม่ได้ขายความตุ้งแช่ แต่ขายความ “อึดอัด” ที่ค่อยๆ กัดกินใจคนดู จนได้รับเลือกไปฉายที่เทศกาลหนังเมืองคานส์และโตรอนโต วันนี้ Movie24HDจะพาไปชำแหละความยอดเยี่ยมของหนังเรื่องนี้กันครับ
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ อิมดงฮวาน (รับบทโดย Park Jeong-min) ชายหนุ่มผู้ดูแลพ่อตาบอด อิมยองกยู (รับบทโดย Kwon Hae-hyo) ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่า พบโครงกระดูกมนุษย์ที่คาดว่าเป็นแม่ของเขาที่หายสาบสูญไปกว่า 40 ปี! ดงฮวานไม่เคยเห็นหน้าแม่ และไม่มีรูปถ่ายของเธอแม้แต่ใบเดียว สิ่งเดียวที่เขารับรู้จากคำบอกเล่าของคนรอบข้างคือ แม่ของเขาเป็นผู้หญิงที่ “หน้าเกลียด” (Ugly) จนถูกสังคมรังเกียจและถูกเรียกว่า “ยักษ์อัปลักษณ์” แต่ยิ่งดงฮวานสืลึกลงไป เขากลับพบว่าความอัปลักษณ์ที่แท้จริงอาจไม่ใช่ใบหน้าของแม่ แต่เป็น “ความลับ” ที่พ่อของเขาและคนในโรงงานเย็บผ้าพยายามฝังกลบไว้…
การแสดงระดับเทพของ “พัคจองมิน”ต้องปรบมือให้ Park Jeong-min ที่รับบทหนักถึง 2 บทบาท คือเป็นทั้ง “ลูกชาย” ในพาร์ทปัจจุบัน และ “พ่อ (วัยหนุ่ม)” ในพาร์ทอดีต การแสดงของเขาทำให้เราแยกคาแรคเตอร์ออกได้ชัดเจน ทั้งสายตาที่สับสนของลูก และความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัวของพ่อ เป็นการแสดงที่แบกหนังทั้งเรื่องไว้อย่างสมบูรณ์แบบบรรยากาศความหลอนที่ไม่มีผี หนังใช้โทนภาพสีหม่นและการจัดแสงเงาที่เน้นความไม่ชัดเจน (เหมือนสายตาของพ่อที่มองไม่เห็น) ทำให้คนดูรู้สึกระแวงตลอดเวลา คำว่า “หน้าเกลียด” ในเรื่องถูกขยายความจนน่ากลัว มันไม่ใช่แค่ขี้เหร่ แต่หมายถึงการถูกลดทอนความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) ซึ่งผู้กำกับยอนซังโฮทำประเด็นนี้ได้เจ็บแสบมาก บทสรุปที่ตบหน้าคนดู หนังเดินเรื่องเหมือนหนังสืบสวนทั่วไป แต่จุดเฉลย (Twist) ของเรื่องไม่ได้อยู่ที่ว่า “ใครฆ่า” แต่อยู่ที่ “ทำไมถึงฆ่า” และ “หน้าตาที่แท้จริงของแม่เป็นอย่างไร” ซึ่งคำตอบที่ได้จะทำให้คุณจุกจนพูดไม่ออก ข้อสังเกต
หนังมีความดราม่าหนักหน่วงและหดหู่ (Depressing) ใครที่จิตใจอ่อนไหวอาจจะต้องเตรียมใจ
การเล่าเรื่องสลับไทม์ไลน์อดีต-ปัจจุบัน อาจต้องใช้สมาธิในการดูช่วงแรก


ใบหน้าของแม่: แม่ (จองยองฮี) ไม่ได้มีใบหน้าที่อัปลักษณ์หรือผิดรูปแต่อย่างใด! เธอเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา แต่ถูกสังคมในโรงงานและหัวหน้างาน “สร้างภาพจำ” (Gaslighting) ใส่ร้ายว่าเธอน่าเกลียดและเป็นตัวซวย เพียงเพื่อให้ง่ายต่อการกดขี่และล่วงละเมิด
ความลับของพ่อ: พ่อไม่ได้ตาบอดเพราะอุบัติเหตุ แต่เขาเลือกที่จะ “มืดบอด” ต่อความจริง เขารู้ว่าแม่ถูกกระทำอย่างไร แต่เลือกที่จะเงียบเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง ความอัปลักษณ์ที่แท้จริงในเรื่องนี้จึงไม่ใช่ใบหน้าของแม่ แต่คือ “จิตใจของพ่อ” และคนที่เพิกเฉยต่อความอยุติธรรมนั่นเอง
Mother (2009): หนังเกาหลีระดับตำนาน เมื่อแม่ทำทุกอย่างเพื่อลูก (แต่เรื่องนี้ลูกทำเพื่อแม่)
Burning (2018): หนังปริศนาที่เล่นกับความเหลื่อมล้ำและสิ่งที่มองไม่เห็น
Forgotten (2017): พี่ชายที่กลับมาบ้าน… แต่ไม่ใช่คนเดิม
Memories of Murder (2003): การสืบสวนที่กัดกินใจตำรวจ
Q: เป็นหนังผีไหม?
A: ไม่ใช่หนังผีครับ เป็นหนังแนว Psychological Thriller (ระทึกขวัญจิตวิทยา) และ Mystery (สืบสวน) ที่เน้นความน่ากลัวของจิตใจคนมากกว่าสิ่งลี้ลับ
Q: ชื่อไทยคือ “หน้าเกลียด” หรือ “น่าเกลียด”?
A: ชื่อไทยอย่างเป็นทางการคือ “หน้าเกลียด” (เล่นคำว่า “หน้า” = Face และความหมายแฝงว่า “น่ารังเกียจ”) ซึ่งตรงกับชื่อภาษาเกาหลีที่แปลว่า “ใบหน้า” (Face) ครับ
Q: ดู The Ugly 2025 พากย์ไทย ได้ที่ไหน?
A: ติดตามรับชมแบบคมชัดระดับ 4K ทั้งซับไทยและพากย์ไทยได้ที่หน้าแรกของ movie24hd.net เราอัปเดตหนังใหม่ชนโรงให้คุณก่อนใคร!