Video Sources 48 Views

  • Watch trailer
  • ตัวเล่นหลัก

Synopsis

ดูหนัง Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2

เมื่อฝูงชนที่โกรธแค้นลุกขึ้นต่อต้านแม่มดชั่วร้าย กลินดาและเอลฟาบา จะต้องกลับมาพบกันอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยมิตรภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขาที่กลายเป็นจุดศูนย์กลางของอนาคต พวกเขาจะต้องมองเห็นกันและกันอย่างแท้จริง ด้วยความซื่อสัตย์และความเห็นอกเห็นใจ หากต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองและทั้งออซไปตลอดกาล

Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2

😈 💖 ปิดฉากตำนานแม่มด: รีวิว “Wicked: For Good (2025)” มหากาพย์แห่ง Oz บทสรุปที่โลกต้องจดจำ | movie24hd.net

สวัสดีครับ/ค่ะ! หลังจากที่โลกทั้งใบต้องตกอยู่ในมนตร์สะกดของ “Wicked (2024)” ภาคแรกไปแล้ว วันนี้ movie24hd.net ขอนำเสนอการรีวิวแบบเจาะลึกสุดขั้วสำหรับภาคปิดท้ายที่ทุกคนตั้งตารอคอยอย่าง “Wicked: For Good (2025)” ที่กลับมากำกับโดย Jon M. Chu และเป็นการสานต่อเรื่องราวสุดเข้มข้นของ เอลฟาบา (Elphaba) และ กลินด้า (Glinda) ที่เดินมาถึงจุดที่ไม่มีใครสามารถถอยหลังกลับได้อีกแล้ว

ถ้าภาคแรกคือการปูพื้นฐานมิตรภาพและการค้นพบตัวตน ภาค “For Good” คือการระเบิดอารมณ์ ดราม่า และการเผชิญหน้ากับโชคชะตา! มันคือบทสรุปที่เผยให้เห็นว่า ‘ความดี’ และ ‘ความชั่ว’ ไม่ได้มีขอบเขตที่ชัดเจน แต่เป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นโดยผู้ชนะเท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องที่เหลือ แต่เป็นการพาผู้ชมไปสู่จุดสูงสุดทางอารมณ์ด้วยงานภาพที่อลังการและการแสดงที่ทรงพลังจนคุณต้องขนลุก

🎭 การแสดง: บทสรุปที่ทรงพลังและกำหนดทิศทางอาชีพ

ในภาคจบนี้ ทั้ง Cynthia Erivo และ Ariana Grande ได้ยกระดับการแสดงของตนเองขึ้นไปอีกขั้น พวกเขาไม่ได้เพียงแค่แสดง แต่พวกเขาได้ “กลายเป็น” Elphaba และ Glinda อย่างสมบูรณ์

1. Cynthia Erivo ในบทบาท Elphaba (The Wicked Witch of the West)

ใน “Wicked: For Good” เอลฟาบา จะก้าวข้ามจากนักเรียนที่ถูกเข้าใจผิด ไปสู่การเป็น ‘แม่มดตัวร้ายแห่งทิศตะวันตก’ ที่ทุกคนหวาดกลัวอย่างเต็มตัว การแสดงของ Erivo ในภาคนี้คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด การทรยศ และการยอมรับในโชคชะตาที่ถูกสังคมตราหน้า

  • ความโกรธและความเสียสละ: Erivo ถ่ายทอดความโกรธแค้นต่อการกดขี่ของ พ่อมดแห่ง Oz และความรู้สึกถูกหักหลังจากคนที่เธอรักออกมาได้อย่างเฉียบคม โดยเฉพาะในฉากที่เธอต้องแยกทางกับ กลินด้า เธอใช้พลังเสียงที่หนักแน่นและแฝงด้วยความอ่อนโยนเพื่อสื่อถึงความเสียสละที่เธอต้องทำเพื่อปกป้องความจริงและคนที่เธอรัก การแสดงของเธอในเพลงหลักอย่าง “No Good Deed” คือการระเบิดพลังที่น่าทึ่ง แสดงให้เห็นถึงการยอมจำนนต่อการเป็น ‘คนชั่ว’ เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่กว่า

2. Ariana Grande ในบทบาท Glinda (Glinda the Good)

กลินด้า ในภาคนี้คือการแสดงที่มีมิติมากขึ้นของ Ariana Grande เธอต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากระหว่างการรักษาภาพลักษณ์ ‘แม่มดผู้แสนดี’ ที่สังคมคาดหวัง กับการเป็นเพื่อนที่ดีของ เอลฟาบา

  • ความขัดแย้งภายใน: Grande ถ่ายทอดความขัดแย้งภายในใจของ กลินด้า ได้อย่างน่าทึ่ง เราจะเห็นรอยร้าวภายใต้รอยยิ้มที่สดใสของเธอ ความเจ็บปวดที่ต้องปิดบังความจริง และการพยายามรักษาโลกของ Oz ไว้ให้สมดุล บทบาทของเธอในเพลง “Thank Goodness” สะท้อนถึงชีวิตที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบแต่ขาดความสุขที่แท้จริง ฉากที่น่าจดจำที่สุดคือการเผชิญหน้ากันครั้งสุดท้ายระหว่างเธอกับ Erivo ในเพลง “For Good” ที่เป็นการแลกเปลี่ยนอารมณ์ ความรัก และความเข้าใจที่ลึกซึ้งที่สุด ซึ่งเป็นเพลงที่ใช้ปิดฉากมิตรภาพอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

3. Jonathan Bailey และ Jeff Goldblum: การเปิดเผยความจริง

  • Jonathan Bailey (Fiyero): บทบาทของ ฟิเยโร จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเปิดเผยความจริงในภาคนี้ Bailey มอบการแสดงที่โรแมนติกและกล้าหาญ การเสียสละและความรักของเขาที่มีต่อ เอลฟาบา คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ขับเคลื่อนเนื้อเรื่องไปสู่บทสรุป

  • Jeff Goldblum (The Wizard of Oz): พ่อมดแห่ง Oz จะถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงในภาคนี้ Goldblum ใช้เสน่ห์ที่ดูเจ้าเล่ห์และเปราะบางของเขาในการเผยให้เห็นว่า ‘ผู้ยิ่งใหญ่’ ที่แท้จริงนั้นอาจเป็นเพียงชายชราที่ไม่มีอำนาจและกลัวการถูกเปิดโปง

🎨 งานภาพและโปรดักชั่น: ความมืดและมนตร์ดำที่งดงาม

“Wicked: For Good (2025)” ยกระดับงานภาพจากภาคแรกที่เน้นความสดใสไปสู่โทนที่มืดมนและเข้มข้นยิ่งขึ้น เพื่อสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของตัวละครและบรรยากาศทางการเมืองที่ตึงเครียดใน Oz

1. ฉากหลังที่ยิ่งใหญ่และการออกแบบที่ลุ่มลึก

  • โทนสีและบรรยากาศ: โลกของ Oz ถูกนำเสนอด้วยความลึกลับและอันตรายมากขึ้น ฉากที่ เอลฟาบา หลบหนีและสร้างฐานที่มั่นใหม่ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยงานภาพที่งดงามและน่ากลัวไปพร้อมกัน Jon M. Chu ใช้มุมกล้องที่กว้างและสูงเพื่อเน้นความโดดเดี่ยวของ เอลฟาบา ในขณะที่เธอต่อสู้กับกองทัพของ พ่อมด

  • เทคนิคพิเศษ (VFX): ฉากที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์และมนตร์ดำของ เอลฟาบา ถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยเทคนิคพิเศษที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะการแปลงร่างและฉากการบินที่เหนือจินตนาการ ทำให้เวทมนตร์ใน Oz ดูมีพลังและสมจริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

2. การกำกับมิวสิคัลที่เฉียบขาด

Jon M. Chu พิสูจน์อีกครั้งว่าเขาคือผู้เชี่ยวชาญในการกำกับฉากมิวสิคัลขนาดใหญ่

  • อารมณ์เพลง: ฉากเพลงในภาคนี้เน้นไปที่การขับเคลื่อนอารมณ์และการเล่าเรื่องมากกว่าความฟู่ฟ่าของคอรัส โดยเฉพาะฉากเพลงที่เน้นการแสดงเดี่ยวหรือคู่ การจัดวางองค์ประกอบและการเคลื่อนไหวของนักแสดงในฉากเพลงอย่าง “I’m Not That Girl (Reprise)” หรือ “For Good” มีความละเอียดอ่อนและกินใจอย่างยิ่ง ทำให้ผู้ชมสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดและความผูกพันของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง

📝 เนื้อหาและการตีความ: จุดกำเนิดของตำนาน

“Wicked: For Good” คือการเติมเต็มช่องว่างของเรื่องราวที่ถูกเล่าขานใน “The Wizard of Oz” โดยเน้นการตีความใหม่ที่ทรงพลัง

1. การเผชิญหน้ากับโชคชะตา (The Confrontation with Destiny)

เนื้อหาในภาคนี้จะมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้เพื่อความถูกต้องของ เอลฟาบา ในการต่อต้านอำนาจที่ฉ้อฉลของ พ่อมดแห่ง Oz การตัดสินใจที่ยากลำบากของเธอในการก้าวเข้าสู่บทบาท ‘แม่มดตัวร้าย’ คือการกระทำที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญและความรัก

  • การตั้งคำถามต่อความดี: ภาพยนตร์ท้าทายแนวคิดดั้งเดิมที่ว่า ‘คนดีต้องเป็นแบบไหน’ และ ‘คนชั่วมาจากไหน’ โดยแสดงให้เห็นว่า กลินด้า ที่เป็นตัวแทนของความดีงามนั้น ก็ต้องแลกมาด้วยการประนีประนอมและการปิดบังความจริงบางอย่าง ในขณะที่ เอลฟาบา ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นตัวร้าย กลับทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์

2. การปิดฉากตำนาน (The Completion of the Legend)

ภาค “For Good” จะตอบคำถามทั้งหมดที่ค้างคาใจผู้ชมจากภาคแรก รวมถึงคำถามที่ว่า เอลฟาบา หนีไปได้อย่างไร และความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับ กลินด้า จะเป็นอย่างไรต่อไปเมื่อเรื่องราวดำเนินไปสู่จุดจบที่หลายคนรู้จักใน “The Wizard of Oz”

  • บทสรุปของมิตรภาพ: ฉากสุดท้ายของภาพยนตร์ที่นำเสนอเพลง “For Good” คือการสรุปความหมายของมิตรภาพที่แท้จริง ไม่ว่าชีวิตจะพาพวกเขาไปในทิศทางใด ความผูกพันที่พวกเขามีต่อกันจะคงอยู่ตลอดไป เป็นฉากที่กินใจและสร้างความประทับใจสูงสุดให้กับผู้ชม

💬 สรุปคำวิจารณ์จาก movie24hd.net

“Wicked: For Good (2025)” คือบทสรุปที่ยอดเยี่ยมและคู่ควรกับมหากาพย์มิวสิคัลเรื่องนี้ Jon M. Chu ได้มอบภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความงดงามทางภาพ ดนตรีที่ไพเราะ และที่สำคัญที่สุดคือการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Cynthia Erivo และ Ariana Grande ที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้มากกว่าความบันเทิง แต่ยังให้ข้อคิดที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการตัดสินผู้อื่นจากภายนอก การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และความหมายของมิตรภาพที่แท้จริง มันเป็นการปิดฉากที่สร้างความอิ่มเอมใจ และจะทำให้ผู้ชมที่หลงรักโลกของ Oz มาตั้งแต่ภาคแรกต้องเสียน้ำตาและจดจำเรื่องราวนี้ไปอีกนาน

🎬 บทสรุป: เป็นการปิดตำนานที่สมบูรณ์แบบ ทั้งภาพ เสียง และพลังการแสดง! คุณอยากให้เราเจาะลึกบทเพลง หรือค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักแสดงคนไหนในจักรวาล movie24hd

Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
Original title ดูหนัง Wicked For Good (2025) วิคเค็ด 2
IMDb Rating 7.5 843 votes
TMDb Rating 5.979 73 votes

Similar titles

Sentimental Value (2025)
The Summer Book (2025)
The Last Gunfight (2025) ดวลเดือด สังเวียนระห่ำ
Montana Mavericks (2025)
Batman v Superman Dawn of Justice (2016) แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน แสงอรุณแห่งยุติธรรม
The Hole in the Ground (2019)
Loveyapa (2025)
Three Wisest Men (2025)
The Man in My Basement (2025)
Van Helsing (2004) แวน เฮลซิง นักล่าล้างเผ่าพันธุ์ปีศาจ
Star Wars Episode 3 Revenge of the Sith (2005) สตาร์ วอร์ส เอพพิโซด 3 ซิธชำระแค้น
Con Mum (2025) แม่นักตุ๋น