

หมอกขาวอันหนาวเหน็บ ท่อที่ดังกุกกัก และเสียงสยองที่ดังมาจากที่ระบายน้ำ ห้องน้ำในโรงเรียนนี้… มีผีสิงงั้นเหรอ! งานนี้ไอวี่และบีนต้องออกโรงหาคำตอบนี่คือบทรีวิวเจาะลึกภาพยนตร์ครอบครัวสุดน่ารักที่แฝงความหลอน(แบบเด็กๆ) อย่าง “Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go” (2022) หรือในชื่อไทย “ไอวี่และบีน ผีห้องน้ำ” บทความนี้จัดทำขึ้นพิเศษสำหรับแฟนๆ Movie24hd โดยเน้นการวิเคราะห์เชิงลึก สนุก อ่านเพลิน และเจาะรายละเอียดในมุมที่คุณอาจมองข้ามครับ

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Movie24hd และแฟนคลับช่อง Youtube สายบันเทิงทุกท่าน! กลับมาพบกับผมอีกครั้งในมุมรีวิวหนังครอบครัวกันบ้าง ใครบอกว่าหนังเด็กจะต้องน่าเบื่อหรือมีแต่เรื่องไร้สาระ? วันนี้ผมจะพาไปพิสูจน์กับภาพยนตร์ภาคต่อจากซีรีส์หนังสือขายดีอย่าง “Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go” (ไอวี่และบีน ผีห้องน้ำ)
หลังจากที่ภาคแรกเราได้เห็นจุดเริ่มต้นมิตรภาพของ “ไอวี่” เด็กเงียบสายมูเตลู กับ “บีน” เด็กซนจอมแก่นกันไปแล้ว ในภาค 2 นี้ ดีกรีความป่วนถูกยกระดับขึ้นเมื่อพวกเธอต้องเผชิญกับสิ่งที่เด็กประถมทุกคนทั่วโลกต้องเคยได้ยิน… นั่นคือ “ตำนานผีในห้องน้ำโรงเรียน”!หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังผีที่น่ากลัวจนนอนไม่หลับ แต่มันคือหนังที่จำลอง “จินตนาการความกลัว” ของเด็กๆ ออกมาได้น่ารักและตลกขบขันที่สุดเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณพร้อมจะย้อนวัยไปสู่ช่วงเวลาที่เชื่อว่าเสียงท่อน้ำคือเสียงผีคราง หรือหมอกควันคือวิญญาณ ตามผมมาเจาะลึกความสนุกของหนังเรื่องนี้กันครับ พร้อมจะไปปราบผีกับสองแสบหรือยัง? ดูหนังออนไลน์ Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go (2022) พากย์ไทย/ซับไทย ภาพชัดแจ๋ว ได้ที่นี่: คลิกเพื่อรับชมที่ Movie24hd.net
สิ่งที่ผมชอบมากเกี่ยวกับแฟรนไชส์ Ivy + Bean คือมันไม่พยายามจะเป็นผู้ใหญ่ครับ บทหนังเข้าใจจิตวิทยาของเด็กประถมอย่างถ่องแท้
เชื่อไหมครับว่า ไม่ว่าคุณจะโตมาในประเทศไหน ทุกโรงเรียนมักจะมีตำนาน “ผีห้องน้ำ” เสมอ หนังเรื่องนี้หยิบเอาประเด็นนี้มาเล่นได้อย่างชาญฉลาด
จินตนาการ vs ความจริง: บทหนังเล่นกับเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างจินตนาการของเด็กกับความจริงได้อย่างสนุกสนาน สิ่งที่ผู้ใหญ่มองว่าเป็นแค่ “ท่อน้ำส่งเสียงดัง” หรือ “ควันจากท่อระบายอากาศ” สำหรับไอวี่และบีน มันคือสัญญาณเตือนภัยระดับชาติ! หนังพาเราไปมองโลกผ่านสายตาของพวกเธอ ทำให้เรื่องเล็กๆ กลายเป็นภารกิจกู้โลกที่ยิ่งใหญ่
พิธีกรรมสุดเพี้ยน: ไฮไลท์ของเรื่องคือกระบวนการ “ไล่ผี” ครับ ไอวี่ (ผู้เชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์) สรรหาวิธีการแปลกๆ มาจัดการกับผี ไม่ว่าจะเป็นการเต้นรำ การใช้คาถา หรือการหาอุปกรณ์วิเศษ ซึ่งฉากเหล่านี้เขียนบทออกมาได้ฮาและน่าเอ็นดูมาก มันสะท้อนความไร้เดียงสาที่เด็กๆ เชื่อมั่นอย่างจริงจังว่าสิ่งที่ทำมันได้ผลจริงๆ
ในภาคนี้ เราได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่แน่นแฟ้นขึ้น
บีน (Bean): จากเด็กแก่นเซี้ยวที่ไม่กลัวอะไร ภาคนี้เราได้เห็นมุมที่เธอ “กลัว” บ้าง และต้องพึ่งพาความกล้าหาญจากเพื่อน
ไอวี่ (Ivy): เด็กเงียบๆ ที่ภาคนี้ได้โชว์ความเป็นผู้นำ (Leader) ในเรื่องลี้ลับ เธอคือสมองของทีมที่บีนขาดไม่ได้
ความขัดแย้ง: หนังยังใส่ประเด็นเรื่องเพื่อนคนอื่นๆ ในชั้นเรียน ทั้งคนที่เชื่อและคนที่ไม่เชื่อ (Skeptics) รวมถึงแก๊งเด็กผู้ชายจอมกวน ทำให้โครงสร้างสังคมในโรงเรียนดูสมจริงและมีสีสัน
จุดสังเกต: เนื้อเรื่องอาจจะเบาหวิวและเส้นตรงมากสำหรับผู้ใหญ่ที่มองหาปมซับซ้อน แต่นี่คือหนังที่สร้างมาเพื่อเด็กและครอบครัว ดังนั้นความเรียบง่าย (Simplicity) คือจุดแข็งที่ทำให้เด็กๆ ดูตามได้ไม่เบื่อครับ
หัวใจของหนังเรื่องนี้คือนักแสดงเด็กครับ ถ้าเด็กเล่นไม่ดี หนังจบเห่ทันที แต่โชคดีที่ Ivy + Bean ได้เพชรเม็ดงามมาร่วมงาน
Keslee คือตัวแทนของเด็กสาย “Introvert” ที่มีโลกส่วนตัวสูงแต่เต็มไปด้วยจินตนาการ
การแสดง: น้องเล่นได้นิ่งแต่มีเสน่ห์มากครับ สายตาเวลาที่เธอมองสิ่งต่างๆ เหมือนกำลังวิเคราะห์เวทมนตร์ หรือตอนที่เธอร่ายคาถาด้วยใบหน้าจริงจัง มันดูตลกหน้าตาย (Deadpan Comedy) ที่ทำให้ผู้ใหญ่ขำได้ เธอดูเป็นเด็กฉลาดที่เชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างบริสุทธิ์ใจ
ในทางตรงกันข้าม Madison คือพลังงานนิวเคลียร์เดินได้!
การแสดง: น้องมีพลังงานล้นเหลือ (High Energy) ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูประดิษฐ์หรือ Over-acting จนน่ารำคาญ ความซน ความอยากรู้อยากเห็น และท่าทางกระโดดโลดเต้นของเธอคือสิ่งที่ขับเคลื่อนหนังให้มีจังหวะที่สนุกสนาน เคมีระหว่างเธอกับ Keslee คือส่วนผสมที่ลงตัวเหมือน “หยินกับหยาง”
การได้นักแสดงตลกตัวแม่อย่าง Jane Lynch มาร่วมแสดง ถือเป็นกำไรคนดูครับ
บทบาท: แม้จะออกมาไม่เยอะ แต่ทุกฉากที่เธอปรากฏตัวคือความฮา เธอรับบทครูที่ดูดุแต่จริงๆ แล้วก็มีความเพี้ยนในแบบของตัวเอง ปฏิกิริยาของเธอต่อพฤติกรรมแปลกๆ ของเด็กๆ เป็นตัวแทนของผู้ใหญ่ที่พยายามจะเข้าใจโลกของเด็กแต่ก็เข้าไม่ถึง
Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go มีงานภาพที่เป็นเอกลักษณ์และน่าจดจำมากสำหรับหนังเด็ก
ความสดใส: หนังยังคงคุมโทนด้วยสีสันที่สดใส (Vibrant Colors) เสื้อผ้าของตัวละครมีความฉูดฉาด โดยเฉพาะชุดแม่มดและชุดเล่นของไอวี่และบีน ที่สะท้อนบุคลิกของพวกเธอออกมาผ่านสีสัน
ความหลอนแบบพาสเทล: เมื่อถึงฉากในห้องน้ำหรือฉากที่เกี่ยวกับผี หนังไม่ได้ใช้สีทึมๆ น่ากลัวแบบหนังผีผู้ใหญ่ แต่เลือกใช้ “หมอกสีขาว” และ “แสงสีเขียวอ่อน/ม่วง” เพื่อสร้างบรรยากาศลึกลับแบบแฟนตาซี ซึ่งไม่ทำให้เด็กกลัวจนเกินไป แต่ก็สื่อถึงความผิดปกติได้ชัดเจน
ผมชอบชุดของไอวี่มากครับ ชุดของเธอจะมีความเป็น Layer มีเครื่องประดับแปลกๆ และดูมีความเป็นแม่มดน้อย (Bohemian Witchy Style) ในขณะที่ชุดของบีนจะเน้นความทะมัดทะแมง กางเกงขาสั้น เสื้อยืด ที่พร้อมจะไปปีนต้นไม้ได้ตลอดเวลา รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ช่วยเล่าเรื่องราวของตัวละครได้ดีโดยไม่ต้องพูด
ฉากห้องน้ำโรงเรียนที่เป็นจุดเกิดเหตุ ถูกออกแบบมาให้ดู “กว้างและวังเวง” เกินจริงในสายตาเด็ก (Exaggerated Scale) ท่อน้ำดูใหญ่โต เสียงก้องกังวาน ทำให้เรารู้สึกถึงความกลัวเล็กๆ ของเด็กเวลาต้องเข้าห้องน้ำคนเดียว
ในมุมมองของนักเขียน Movie24hd ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าความบันเทิงครับ
การจัดการกับความกลัว (Conquering Fears): หนังเรื่องนี้สอนเด็กๆ (และเตือนใจผู้ใหญ่) ว่า วิธีจัดการกับความกลัวที่ดีที่สุดไม่ใช่การวิ่งหนี แต่คือการเผชิญหน้ากับมัน… ด้วยวิธีของตัวเอง แม้วิธีไล่ผีของไอวี่และบีนจะดูไร้สาระในสายตาคนอื่น แต่มันคือกระบวนการทางจิตวิทยาที่ทำให้พวกเธอรู้สึกว่า “ควบคุมสถานการณ์ได้”
พลังของมิตรภาพ: ปัญหาในเรื่องนี้ใหญ่เกินกว่าจะแก้คนเดียว ไอวี่ต้องการความกล้าของบีน และบีนต้องการความรู้ของไอวี่ มันสอนให้เห็นว่าการมีเพื่อนคู่คิด (Partner in Crime) ทำให้เรื่องน่ากลัวกลายเป็นเรื่องสนุกได้
ความสำคัญของการเล่น (The Power of Play): ในยุคที่เด็กๆ ติดหน้าจอ หนังเรื่องนี้พาเรากลับไปสู่การเล่นแบบ Analog การวิ่งไล่จับ การสำรวจโรงเรียน การประดิษฐ์ของเล่น มันคือการเฉลิมฉลองวัยเด็กที่ควรจะเป็น
Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go (2022) คือหนังที่สมบูรณ์แบบสำหรับ “Family Movie Night” ครับ มันมีความยาวแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ซึ่งพอดีกับสมาธิของเด็ก และมีความตลกที่ผู้ใหญ่ดูแล้วก็อมยิ้มตาม
ความสนุก: 8.5/10 (เดินเรื่องไว ไม่น่าเบื่อ)
ความน่ารัก: 10/10 (สองแสบเอาใจไปเลย)
งานภาพ: 9/10 (สีสวย สบายตา โปรดักชั่นดี)
เนื้อเรื่อง: 8/10 (เรียบง่ายแต่แข็งแรงในประเด็นที่ต้องการสื่อ)
ข้อสังเกต:
ผู้ใหญ่ที่มองหาเหตุผลตรรกะแบบจริงจังอาจจะต้องวางถุงกาวลงก่อนดู เพราะนี่คือโลกของเด็กครับ
ถ้าไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อน ก็ยังดูรู้เรื่องครับ แต่ถ้าดูมาจะอินกับคาแรคเตอร์มากกว่า
ถ้าคุณและครอบครัวดู Ivy + Bean จบแล้วติดใจความน่ารักแบบนี้ อยากหาหนังแนวแก๊งเด็กแสบหรือคู่หูจอมป่วนดูต่อ มาต่อกันที่เรื่องเหล่านี้บน Movie24hd เลยครับ:
Ramona and Beezus: เรื่องราวของสองพี่น้องที่มีความป่วนไม่แพ้กัน เน้นดราม่าครอบครัวที่อบอุ่น
Matilda (The Musical): ถ้าชอบเด็กที่มีความพิเศษและฉลาดเกินวัย เรื่องนี้คือที่สุด
The Little Rascals: แก๊งเด็กแสบระดับตำนานที่ความฮาไม่เคยเก่า
Diary of a Wimpy Kid: ชีวิตวุ่นๆ ในโรงเรียนของเด็กประถมที่เต็มไปด้วยเรื่องขายขำ
Q1: จำเป็นต้องดูภาคแรก (Ivy + Bean) มาก่อนไหม? A: ไม่จำเป็นครับ! แต่ละภาคมีภารกิจจบในตอนของตัวเอง สามารถดูภาคนี้รู้เรื่องทันที แต่ถ้าอยากรู้จักที่มาที่ไปว่าสองคนนี้มาเป็นเพื่อนกันได้ยังไง แนะนำให้ดูภาคแรกก่อนก็จะเพิ่มอรรถรสครับ (ซึ่งในเว็บเรามีครบทุกภาค!)
Q2: หนังน่ากลัวไหม เด็กเล็กดูได้หรือเปล่า? A: ไม่น่ากลัวเลยครับ! ความ “ผี” ในเรื่องเป็นแนวตลกและแฟนตาซี ไม่มีฉากตุ้งแช่หรือหน้าผีเละๆ เป็นมิตรกับเด็ก 100% (เรต TV-Y7)
Q3: มีพากย์ไทยไหม? A: ที่ Movie24hd เรามีให้เลือกทั้งแบบ พากย์ไทย เสียงน้องๆ น่ารักมาก ฟังง่าย และแบบ Soundtrack (ซับไทย) สำหรับครอบครัวที่อยากฝึกภาษาอังกฤษให้ลูกๆ ครับ
Q4: มีภาคต่ออีกไหม? A: มีครับ! ซีรีส์นี้มาเป็นไตรภาค อีกภาคคือ Ivy + Bean: Doomed to Dance ซึ่งก็สนุกไม่แพ้กัน หาดูได้ที่เว็บเราเช่นกันครับ
สรุปแล้ว Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go (2022) คือหนังที่ย้ำเตือนเราว่า โลกของเด็กนั้นกว้างใหญ่และน่าตื่นเต้นเสมอ แม้แต่ในห้องน้ำโรงเรียนธรรมดาๆ ก็สามารถเป็นฉากผจญภัยสุดระทึกได้ หากเรามีจินตนาการและเพื่อนที่ดีอยู่ข้างกาย สุดสัปดาห์นี้ ถ้ายังไม่มีโปรแกรมไปไหน ลองชวนลูกๆ หลานๆ หรือแม้แต่ตัวคุณเอง มานั่งดูความป่วนของไอวี่และบีนกันครับ รับรองว่าคุณจะได้รับรอยยิ้มกลับไปแน่นอน
👉 คลิกเพื่อดู Ivy + Bean: The Ghost That Had to Go (2022) เต็มเรื่อง ฟรี! ที่ Movie24hd.net
และเพื่อไม่ให้พลาดการอัปเดตหนังครอบครัวน่ารักๆ รีวิวหนังเด็ก หรือการ์ตูนมาใหม่ อย่าลืมกดติดตามช่องพันธมิตรสุดเจ๋งของเรา:
YouTube: @malagorman – รีวิวหนังและวิเคราะห์ตัวละคร
YouTube: @GreaterThanStudio – เจาะลึกเบื้องหลัง
YouTube: @DooaraiD555 – แนะนำหนังน่าดู คลิปสั้นดูเพลิน
ขอให้มีความสุขกับการดูหนัง และอย่าลืมเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนดูนะครับ! (ฮา) movie24hd