

The Blair Witch Project (1999) สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย ตุลาคม 1994 นักศึกษากลุ่มหนึ่งหายสาปสูญไปในป่าลึก ระหว่างทำหนังในโครงการค้นหาคำตอบ “แม่มดเมืองแบล์” หนึ่งปีต่อมา…เรื่องจริงที่ช็อคโลกนี้จึงถูกเปิดเผย และโลกทั้งโลกก็ได้ตื่นตะลึงกับเรื่องราวที่คาดไม่ถึง
ภาพยนตร์เรื่องนี้คือจุดเริ่มต้นของกระแสหนังกล้องสั่น (Shaky Cam) ที่ทำให้คนดูเวียนหัวและขนลุกไปพร้อมๆ กัน พล็อตเรื่องเรียบง่ายแต่ทรงพลัง: นักศึกษาฟิล์ม 3 คนหายตัวไปในป่า Black Hills ขณะถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับตำนานแม่มดแบลร์ สิ่งที่เหลืออยู่คือม้วนเทปที่ถูกค้นพบในอีก 1 ปีต่อมา… นี่คือหนังที่พิสูจน์ว่า บางครั้งสิ่งที่ “มองไม่เห็น” น่ากลัวกว่าปีศาจที่โผล่มาตรงๆ ซะอีก
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม ปี 1994 นักศึกษาภาพยนตร์ 3 คน ได้แก่ เฮทเธอร์, จอช และ ไมค์ เดินทางไปยังเมืองเบอร์กิตส์วิลล์ รัฐเมอริแลนด์ เพื่อสัมภาษณ์ชาวบ้านและถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับตำนานท้องถิ่นเรื่อง “แม่มดแบลร์” (The Blair Witch) ที่เล่าลือกันว่าเคยลักพาตัวเด็กและฆ่าคนในป่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยความคึกคะนองและอยากรู้อยากเห็น (สอดรู้ สอดเห็น) พวกเขาตัดสินใจเดินเท้าเข้าไปในป่า Black Hills เพื่อตามหาร่องรอยสถานที่จริง แต่ยิ่งเดินลึกเข้าไป แผนที่ก็ยิ่งไร้ความหมาย พวกเขาเริ่มหลงทาง ทะเลาะกันเอง และต้องเผชิญกับเสียงประหลาดในยามค่ำคืน กองหินที่ถูกเรียงไว้อย่างปริศนา และสัญลักษณ์ไม้เสียบที่แขวนอยู่ทั่วป่า… จนกระทั่งพวกเขารู้ตัวว่า… พวกเขาไม่ได้อยู่กันแค่ 3 คน



ความสมจริงที่น่าขนลุก: นักแสดงในเรื่องใช้ชื่อจริง และแทบจะด้นสด (Improvise) บทสนทนา ผู้กำกับใช้วิธีปล่อยนักแสดงไว้ในป่าจริงๆ ให้อดนอน ให้หิว และแอบไปแกล้งตอนกลางคืน ทำให้ความกลัว ความเครียด และเสียงร้องไห้ที่เราเห็น คือ “อารมณ์จริง” ล้วนๆ
บรรยากาศกดดัน: หนังไม่มีดนตรีประกอบ ไม่มี CG ผีตุ้งแช่ มีแค่เสียงลม เสียงกิ่งไม้หัก และเสียงกรีดร้องในความมืด ซึ่งมันกระตุ้นต่อมจินตนาการของเราให้เตลิดเปิดเปิงไปไกล
มุมกล้อง: การใช้กล้องวิดีโอแบบ Home Video ถ่ายทำ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนที่ 4 ในกลุ่ม เหมือนเรากำลังวิ่งหนีตายไปพร้อมกับพวกเขา
ความคลาสสิก: 10/10 (หนังที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการสยองขวัญ)
ความหลอน: 8/10 (ต้องดูในที่มืด เงียบๆ ใส่หูฟัง จะได้ฟีลมาก)
movie24hd Rating: 8.5/10
Heather Donahue รับบท Heather (ผู้กำกับสาวจอมบงการ เจ้าของฉากขอโทษหน้ากล้องในตำนาน)
Joshua Leonard รับบท Josh (ตากล้องหนุ่ม)
Michael C. Williams รับบท Mike (คนถือเสียง ที่สติแตกเป็นคนแรกๆ)
ที่ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นตำนานคือ “ตอนจบ” ครับหลังจากที่จอชหายตัวไป และเฮทเธอร์เจอฟันกับเลือดของจอชห่ออยู่ในเศษเสื้อ ทั้งเฮทเธอร์และไมค์ก็สติแตกจนขีดสุด ในคืนสุดท้ายพวกเขาตามเสียงร้องของจอชเข้าไปในบ้านร้างกลางป่ากล้องของไมค์ร่วงลงพื้นก่อน และภาพตัดไปที่เฮทเธอร์วิ่งตามลงไปที่ห้องใต้ดิน สิ่งที่เฮทเธอร์ (และคนดู) เห็นแวบสุดท้ายคือ ไมค์กำลังยืนหันหน้าเข้าหามุมห้อง (เหมือนเด็กที่ถูกทำโทษ) ก่อนที่เฮทเธอร์จะถูกทุบจากด้านหลังและกล้องร่วงลงพื้น… ภาพตัด!ความหมาย: ตามตำนานแม่มดแบลร์ (หรือฆาตกร Rustin Parr) เขาจะบังคับให้เด็กคนหนึ่งยืนหันหน้าเข้ามุมห้องเพื่อไม่ให้เห็นตอนที่เขาฆ่าเด็กอีกคน… การที่ไมค์ยืนนิ่งแบบนั้น แปลว่า “ความตาย” มาถึงตัวเฮทเธอร์แล้วนั่นเองครับ (หลอนมาก!)
Paranormal Activity: ตั้งกล้องถ่ายผีในบ้าน หลอนเงียบๆ แต่อิมแพ็คแรง
REC (ปิดตึกสยอง): หนังซอมบี้สเปนผ่านกล้องนักข่าว ที่ลุ้นจนลืมหายใจ
Gonjiam: Haunted Asylum: หนังเกาหลีล่าท้าผีในโรงพยาบาลร้าง (อันนี้หลอนระดับ 10)
Cloverfield: สัตว์ประหลาดบุกโลกผ่านกล้องมือถือ
Q1: เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่?
A: ไม่ใช่เรื่องจริงครับ เป็นภาพยนตร์ที่แต่งขึ้น แต่การตลาดในยุคนั้นทำโปสเตอร์คนหายปลอมๆ และสร้างเว็บไซต์หลอกคน จนคนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงครับ
Q2: ทำไมกล้องถึงสั่นทั้งเรื่อง?
A: เพราะคอนเซปต์คือการใช้กล้องวิดีโอพกพา (Camcorder) ที่ตัวละครถือวิ่งหนีครับ อาจจะทำให้เวียนหัวบ้างสำหรับคนไม่ชิน
Q3: ดูหนัง พากย์ไทยได้ที่ไหน?
A: ดูได้ที่ movie24hd.net ครับ เรามีทั้งพากย์ไทยและซับไทย ภาพคมชัด เสียงกระหึ่ม
Q4: มีภาคต่อไหม?
A: มีภาค 2 (Book of Shadows) และภาคต่อปี 2016 (Blair Witch) ครับ แต่ภาคแรกปี 1999 นี้ขึ้นหิ้งคลาสสิกที่สุดแล้ว