2021 : ปีแห่ง “การกลับมา” ของโรงภาพยนตร์ และ “สงครามสตรีมมิง” ที่แท้จริง
หากปี 2020 คือปีที่โลก “หยุดนิ่ง” จากการระบาดใหญ่ ปี 2021 ก็คือปีที่อุตสาหกรรมภาพยนตร์พยายาม “ลุกขึ้นยืน” อีกครั้ง ท่ามกลางสมรภูมิที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันคือปีแห่ง “การทดลอง” ที่สั่นสะเทือนวงการ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น: ดูหนังออนไลน์
[read more]
1. สงคราม “Hybrid Model” (โรงภาพยนตร์ ปะทะ สตรีมมิง)นี่คือธีมหลักของปี 2021 สตูดิโอใหญ่ต่างเดิมพันด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน:
- Warner Bros. (Project Popcorn): สร้างความสั่นสะเทือนที่สุด ด้วยการประกาศส่งหนังฟอร์มยักษ์ทั้งปี (เช่น Dune, The Matrix Resurrections, Godzilla vs. Kong) ฉาย “ชนโรง” พร้อมกับลงสตรีมมิง (HBO Max) ในวันเดียวกัน
- Disney (Premier Access): ใช้วิธี “ไฮบริด” ที่ซับซ้อนกว่า บางเรื่อง (เช่น Black Widow, Jungle Cruise) ต้อง “จ่ายเพิ่ม” เพื่อดูบน Disney+ ในวันเดียวกับโรง, บางเรื่อง (Luca) ลงสตรีมมิงฟรี และบางเรื่อง (Shang-Chi) ถูกส่งไป “ชิมลาง” ฉายในโรงภาพยนตร์ก่อน เพื่อทดสอบตลาด
2. การกลับมาของ “อีเวนต์” ในโรงภาพยนตร์ในขณะที่หนังส่วนใหญ่ต้องดิ้นรนอย่างหนัก ก็มีหนังไม่กี่เรื่องที่พิสูจน์ว่า “โรงภาพยนตร์ยังไม่ตาย”
- A Quiet Place Part II และ F9 เป็นสองเรื่องแรกที่ “กล้า” ฉายในโรงแบบ Exclusive และทำเงินได้ดีในช่วงกลางปี
- No Time to Die การรอคอย “เจมส์ บอนด์” ครั้งสุดท้ายของแดเนียล เคร็ก ก็ดึงผู้ชมวัยผู้ใหญ่กลับเข้าโรงได้
- และที่สำคัญที่สุด Spider-Man: No Way Home ที่เข้าฉายปลายปี ได้กลายเป็น “ผู้กอบกู้” อย่างแท้จริง มันไม่ใช่แค่หนัง แต่คือ “ปรากฏการณ์” ทางวัฒนธรรมที่คนทั้งโลกยอมเสี่ยงออกจากบ้านเพื่อไปดูในโรง ทำให้มันกลายเป็นหนังทำเงินอันดับ 1 ของโลกยุคหลังโควิดเรื่องแรก
3. ปีที่ “หนังเล็ก” และ “หนังรางวัล” ยึดครองสตรีมมิงเมื่อหนังฟอร์มยักษ์แบ่งเค้กกันอย่างวุ่นวาย แพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Netflix และ Apple TV+ ก็กลายเป็น “บ้าน” ของหนังรางวัลคุณภาพสูง
- CODA (Apple TV+) กลายเป็นม้ามืดที่ชนะใจคนดูจากเทศกาล Sundance ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์คว้า “ออสการ์ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม”
- The Power of the Dog และ Don’t Look Up (Netflix) กลายเป็นหนังที่สร้างบทสนทนาและมีผู้ชมมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม
ปี 2021 จึงเป็นปีที่ “พฤติกรรมคนดู” เปลี่ยนไปอย่างถาวร เราได้เห็นการต่อสู้ที่ชัดเจนที่สุดระหว่าง “ประสบการณ์ในโรงหนัง” กับ “ความสะดวกสบายบนโซฟา”
[read more]
สุดยอดภาพยนตร์แห่งปี 2021 ที่ต้องจดจำ

Spider-Man: No Way Home (สไปเดอร์แมน: โน เวย์ โฮม)
- ชื่อเรื่อง: Spider-Man: No Way Home
- นำแสดงโดย: Tom Holland, Zendaya, Benedict Cumberbatch, Tobey Maguire, Andrew Garfield
- ประเภท: Superhero, Action, Fantasy
- ออกอากาศ: 17 ธันวาคม 2021
- ผู้กำกับ: Jon Watts
- เรื่องย่อ: เมื่อตัวตนของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ถูกเปิดเผย เขาจึงไปขอความช่วยเหลือจาก ดร.สเตรนจ์ แต่คาถากลับผิดพลาด ทำให้เหล่าร้ายจาก “จักรวาลอื่น” (รวมถึงสไปเดอร์แมนคนอื่นๆ) ถูกดึงเข้ามาในโลกของเขา
- จุดเด่นของหนัง: การรวมตัวของ 3 สไปเดอร์แมน, การเซอร์วิสแฟนที่ “ถึง” ที่สุด, บทสรุปที่บีบหัวใจ
- กระแสตอบรับและความนิยม: “ปรากฏการณ์” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ Endgame เป็นหนังเรื่องแรกในยุคโควิดที่ทำเงินทะลุ 1.9 พันล้านดอลลาร์ และกอบกู้อุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: นี่คือ “อีเวนต์” ทางภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเจเนอเรชันนี้

No Time to Die (007 พยัคฆ์ร้ายฝ่าเวลามรณะ)
- ชื่อเรื่อง: No Time to Die
- นำแสดงโดย: Daniel Craig, Léa Seydoux, Rami Malek, Ana de Armas
- ประเภท: Action, Spy, Thriller
- ออกอากาศ: 30 กันยายน 2021
- ผู้กำกับ: Cary Joji Fukunaga
- เรื่องย่อ: เจมส์ บอนด์ (Craig) เกษียณตัวเองไปใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ถูกดึงกลับมาในภารกิจสุดท้ายเพื่อหยุดยั้งวายร้าย (Malek) ที่มีเทคโนโลยีอาวุธชีวภาพสุดอันตราย
- จุดเด่นของหนัง: “บทสรุป” ของเจมส์ บอนด์ ฉบับ แดเนียล เคร็ก ที่เข้มข้นและ “สะเทือนอารมณ์” ที่สุด, การปรากฏตัวของ Ana de Armas ที่ขโมยซีน
- กระแสตอบรับและความนิยม: เป็นหนังฮอลลีวูดที่ทำเงินสูงสุดอันดับ 2 ของปี (รองจาก Spider-Man) และเป็นการอำลาที่สมศักดิ์ศรี
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: เพื่อเป็นสักขีพยาน “การปิดฉาก” ตำนานบอนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง

CODA (โคด้า: หัวใจไม่ไร้เสียง)
- ชื่อเรื่อง: CODA (Child of Deaf Adults)
- นำแสดงโดย: Emilia Jones, Marlee Matlin, Troy Kotsur
- ประเภท: Drama, Comedy, Music
- ออกอากาศ: 13 สิงหาคม 2021 (ทาง Apple TV+)
- ผู้กำกับ: Sian Heder
- เรื่องย่อ: รูบี้ (Jones) คือสมาชิกคนเดียวในครอบครัวที่ “ได้ยิน” (CODA) เธอต้องเลือกระหว่างการช่วยธุรกิจประมงของครอบครัวที่กำลังลำบาก หรือไล่ตามความฝันในการเป็นนักร้อง
- จุดเด่นของหนัง: ความอบอุ่นหัวใจ, การแสดงที่ทรงพลังของ Troy Kotsur, ฉาก “เงียบ” ในคอนเสิร์ตที่บีบหัวใจ
- กระแสตอบรับและความนิยม: “ม้ามืดแห่งปี” ชนะรางวัล Grand Jury Prize ที่ Sundance และสร้างประวัติศาสตร์คว้า 3 ออสการ์ รวมถึง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หนังฟีลกู้ดที่พิสูจน์ว่า “หนังเล็กๆ” บนสตรีมมิง ก็สามารถยิ่งใหญ่ที่สุดบนเวทีโลกได้

Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings (ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์)
- ชื่อเรื่อง: Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings
- นำแสดงโดย: Simu Liu, Tony Leung (เหลียงเฉาเหว่ย), Awkwafina
- ประเภท: Superhero, Action, Fantasy
- ออกอากาศ: 3 กันยายน 2021
- ผู้กำกับ: Destin Daniel Cretton
- เรื่องย่อ: ชาง-ชี พนักงานรับรถที่ซ่อนอดีตไว้ ต้องกลับไปเผชิญหน้ากับพ่อของเขา “เหวินหวู่” (เหลียงเฉาเหว่ย) ผู้นำองค์กรเท็นริงส์ในตำนาน
- จุดเด่นของหนัง: “เหลียงเฉาเหว่ย” ในบทตัวร้ายที่มีมิติที่สุดคนหนึ่งของ MCU, คิวบู๊สไตล์กังฟูที่งดงาม, การเปิดตัวฮีโร่เอเชียที่ทรงพลัง
- กระแสตอบรับและความนิยม: ประสบความสำเร็จ “เกินคาด” ในยุคโควิด พิสูจน์ว่าการฉายแบบ “โรงภาพยนตร์เท่านั้น” ยังคงได้ผล
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: เพื่อดูการแสดงระดับมาสเตอร์คลาสของ เหลียงเฉาเหว่ย และฉากแอ็กชันที่สดใหม่ที่สุดของ Marvel

Godzilla vs. Kong (ก็อดซิลล่า ปะทะ คอง)
- ชื่อเรื่อง: Godzilla vs. Kong
- นำแสดงโดย: Alexander Skarsgård, Millie Bobby Brown, Rebecca Hall
- ประเภท: Monster, Action, Sci-Fi
- ออกอากาศ: 24 มีนาคม 2021
- ผู้กำกับ: Adam Wingard
- เรื่องย่อ: สองไททันในตำนานต้องมาปะทะกัน เมื่อมนุษย์พยายามใช้คองนำทางไปยัง “โลกใต้พิภพ” (Hollow Earth) ขณะที่ก็อดซิลล่ากำลังคลั่งอาละวาดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- จุดเด่นของหนัง: “การต่อสู้” ที่ดุเดือดและสะใจ ไม่มีการกั๊ก, งานภาพ CGI ที่ตระการตา
- กระแสตอบรับและความนิยม: เป็นหนัง “ฮิต” เรื่องแรกของปี 2021 ที่ปลุกกระแสโรงหนังทั่วโลก (แม้จะฉายชน HBO Max)
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หนังที่มอบความบันเทิงแบบ “ไม่ต้องคิดเยอะ” และฉากแอ็กชันอสูรกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

The Power of the Dog (อำนาจของสุนัข)
- ชื่อเรื่อง: The Power of the Dog
- นำแสดงโดย: Benedict Cumberbatch, Kirsten Dunst, Jesse Plemons, Kodi Smit-McPhee
- ประเภท: Psychological Drama, Western (ดราม่าจิตวิทยา, คาวบอย)
- ออกอากาศ: 1 ธันวาคม 2021 (ทาง Netflix)
- ผู้กำกับ: Jane Campion
- เรื่องย่อ: ในปี 1925 ฟิล เบอร์แบงค์ (Cumberbatch) คาวบอยเจ้าเสน่ห์แต่โหดเหี้ยม ข่มขู่และทรมานจิตใจน้องสะใภ้ (Dunst) และลูกติดของเธอ (Smit-McPhee)
- จุดเด่นของหนัง: การแสดงที่ “น่าขนลุก” ของ Cumberbatch, บรรยากาศที่ตึงเครียดและอึดอัด, การกำกับที่เฉียบคม
- กระแสตอบรับและความนิยม: “ตัวเต็งออสการ์” แห่งปี ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 12 สาขา และ Jane Campion ชนะรางวัล ผู้กำกับยอดเยี่ยม
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หนังคาวบอยที่ “แตกต่าง” ที่สุด ที่ใช้จิตวิทยาแทนการดวลปืน

Don’t Look Up (อย่ามองขึ้นไป)
- ชื่อเรื่อง: Don’t Look Up
- นำแสดงโดย: Leonardo DiCaprio, Jennifer Lawrence, Meryl Streep, Cate Blanchett, Timothée Chalamet
- ประเภท: Black Comedy, Satire, Sci-Fi (ตลกร้าย, เสียดสี, ไซไฟ)
- ออกอากาศ: 24 ธันวาคม 2021 (ทาง Netflix)
- ผู้กำกับ: Adam McKay
- เรื่องย่อ: สองนักดาราศาสตร์ (DiCaprio, Lawrence) ค้นพบดาวหางขนาดยักษ์ที่จะพุ่งชนโลกใน 6 เดือน แต่ไม่มีใครเชื่อพวกเขา ทั้งรัฐบาล (Streep) และสื่อต่างมองเป็นเรื่องตลก
- จุดเด่นของหนัง: “การรวมดาว” นักแสดง A-List ที่เยอะที่สุด, การเสียดสีสังคมยุคใหม่ (การเมือง, สื่อ, โซเชียลมีเดีย) ที่เจ็บแสบ
- กระแสตอบรับและความนิยม: “ปรากฏการณ์” บน Netflix เป็นหนังที่ถูกพูดถึงและถกเถียงมากที่สุดในช่วงสิ้นปี
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หนังตลกร้ายที่สะท้อน “ความจริง” ของโลกปัจจุบันได้น่ากลัวที่สุด

A Quiet Place Part II (ดินแดนไร้เสียง ภาค 2)
- ชื่อเรื่อง: A Quiet Place Part II
- นำแสดงโดย: Emily Blunt, Cillian Murphy, Millicent Simmonds
- ประเภท: Horror, Thriller (สยองขวัญ, ระทึกขวัญ)
- ออกอากาศ: 28 พฤษภาคม 2021
- ผู้กำกับ: John Krasinski
- เรื่องย่อ: สานต่อทันทีจากภาคแรก ครอบครัวแอ็บบอตต์ต้องออกจากบ้าน และพบว่า “อสูรกาย” ที่ตามเสียง ไม่ใช่สิ่งเดียวที่น่ากลัวในโลกภายนอก
- จุดเด่นของหนัง: ความตึงเครียดที่ “บีบหัวใจ” ไม่แพ้ภาคแรก, การขยายโลกที่น่าสนใจ, ฉากเปิดเรื่องที่ย้อนไป “วันที่หนึ่ง”
- กระแสตอบรับและความนิยม: ประสบความสำเร็จอย่างสูง เป็นหนึ่งในหนังเรื่องแรกๆ ที่พิสูจน์ว่าคนยังต้องการดูหนังสยองขวัญในโรง
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: ประสบการณ์การ “กลั้นหายใจ” ในโรงภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม
10. Black Widow (แบล็ค วิโดว์)
- ชื่อเรื่อง: Black Widow
- นำแสดงโดย: Scarlett Johansson, Florence Pugh, David Harbour
- ประเภท: Superhero, Action, Spy (ฮีโร่, แอ็กชัน, สายลับ)
- ออกอากาศ: 9 กรกฎาคม 2021 (ฉายชน Disney+ Premier Access)
- ผู้กำกับ: Cate Shortland
- เรื่องย่อ: เรื่องราวระหว่าง Civil War และ Infinity War นาตาชา โรมานอฟฟ์ ต้องกลับไปสะสางอดีตและเผชิญหน้ากับ “ครอบครัว” เก่าของเธอ (รวมถึง เยเลนา) เพื่อทำลาย “ห้องแดง”
- จุดเด่นของหนัง: การแจ้งเกิดของ Florence Pugh ในบท เยเลนา, แอ็กชันสายลับภาคพื้นดิน
- กระแสตอบรับและความนิยม: ทำรายได้ปานกลาง (เพราะการฉายแบบไฮบริด) และนำไปสู่การฟ้องร้องครั้งประวัติศาสตร์ระหว่าง Scarlett Johansson กับ Disney
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: การอำลาที่รอคอยมานานของนาตาชา และการแนะนำตัวละครใหม่ที่สำคัญของ MCU

The Suicide Squad (เดอะ ซุยไซด์ สควอด)
- ชื่อเรื่อง: The Suicide Squad
- นำแสดงโดย: Margot Robbie, Idris Elba, John Cena, Viola Davis
- ประเภท: Superhero, Action, Dark Comedy (ฮีโร่, แอ็กชัน, ตลกร้าย)
- ออกอากาศ: 6 สิงหาคม 2021 (ฉายชน HBO Max)
- ผู้กำกับ: James Gunn
- เรื่องย่อ: ทีมวายร้ายสุดเพี้ยน (ฮาร์ลีย์ ควินน์, บลัดสปอร์ต, พีซเมคเกอร์) ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจพลีชีพบนเกาะคอร์โต มอลทีส เพื่อทำลายอาวุธลับ “สตาร์โร”
- จุดเด่นของหนัง: ความ “บ้า” “ตลกร้าย” และ “เลือดสาด” สไตล์ James Gunn, ตัวละครที่น่าจดจำ (King Shark, Polka-Dot Man)
- กระแสตอบรับและความนิยม: “ขวัญใจนักวิจารณ์” (RT 90%) แต่ “ล้มเหลว” ด้านรายได้ในโรง (เพราะฉายไฮบริด) แต่ก็ฮิตมากในสตรีมมิง
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หนังซูเปอร์ฮีโร่เรท R ที่ “สร้างสรรค์” และ “สนุก” ที่สุดเรื่องหนึ่ง

F9: The Fast Saga (เร็ว…แรงทะลุนรก 9)
- ชื่อเรื่อง: F9: The Fast Saga
- นำแสดงโดย: Vin Diesel, Michelle Rodriguez, John Cena
- ประเภท: Action, Crime (แอ็กชัน, อาชญากรรม)
- ออกอากาศ: 25 มิถุนายน 2021
- ผู้กำกับ: Justin Lin
- เรื่องย่อ: ดอม ทอเร็ตโต ต้องกลับมารวมทีม “ครอบครัว” อีกครั้ง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ “เจค็อบ” (John Cena) น้องชายที่หายสาบสูญ ผู้มาพร้อมแผนการทำลายล้างโลก
- จุดเด่นของหนัง: แอ็กชันที่ “ท้าทายกฎฟิสิกส์” (รถแม่เหล็ก, ขับรถไปอวกาศ), การกลับมาของฮาน
- กระแสตอบรับและความนิยม: เป็นหนังฮอลลีวูดที่ทำเงินสูงสุดเรื่องหนึ่งของปี (ทำเงิน $726 ล้าน) พิสูจน์ว่าแฟรนไชส์นี้ยังคงแข็งแกร่ง
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: เพื่อความบันเทิงแบบ “ไม่ต้องคิดอะไร” และฉากแอ็กชันที่บ้าคลั่งที่สุด

The Matrix Resurrections (เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์)
- ชื่อเรื่อง: The Matrix Resurrections
- นำแสดงโดย: Keanu Reeves, Carrie-Anne Moss, Yahya Abdul-Mateen II
- ประเภท: Sci-Fi, Action (ไซไฟ, แอ็กชัน)
- ออกอากาศ: 22 ธันวาคม 2021 (ฉายชน HBO Max)
- ผู้กำกับ: Lana Wachowski
- เรื่องย่อ: โทมัส แอนเดอร์สัน (นีโอ) ใช้ชีวิตเป็นนักออกแบบเกมชื่อดัง แต่รู้สึกว่าโลกนี้มีบางอย่างผิดปกติ จนกระทั่งเขาได้พบกับมอร์เฟียสคนใหม่ และต้อง “เลือก” อีกครั้ง
- จุดเด่นของหนัง: การตั้งคำถามถึง “การรีบูต” และ “มรดก” ของตัวเอง, การกลับมาของนีโอและทรินิตี้
- กระแสตอบรับและความนิยม: “เสียงแตก” ที่สุดแห่งปี นักวิจารณ์และแฟนๆ แบ่งเป็นสองฝ่ายชัดเจน (ฝ่ายหนึ่งรักในความกล้า อีกฝ่ายเกลียด)
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: การกลับมาของตำนานไซไฟที่ “กล้า” จะวิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง

tick, tick… BOOM! (ติ๊ก, ติ๊ก… บูม!)
- ชื่อเรื่อง: tick, tick… BOOM!
- นำแสดงโดย: Andrew Garfield, Alexandra Shipp
- ประเภท: Musical, Biopic, Drama (ละครเพลง, ชีวประวัติ)
- ออกอากาศ: 19 พฤศจิกายน 2021 (ทาง Netflix)
- ผู้กำกับ: Lin-Manuel Miranda
- เรื่องย่อ: สร้างจากเรื่องจริงของ โจนาธาน ลาร์สัน (Garfield) นักแต่งเพลงละครเวทีในนิวยอร์ก ที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตวัย 30 ที่เขายังไม่สามารถสร้างผลงานชิ้นเอกได้
- จุดเด่นของหนัง: “พลัง” การแสดงและการร้องเพลงของ Andrew Garfield, การกำกับที่ยอดเยี่ยมของ Lin-Manuel Miranda
- กระแสตอบรับและความนิยม: ได้รับคำชมท่วมท้น และส่งให้ Andrew Garfield เข้าชิงออสการ์นำชาย
- เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หนังมิวสิคัลที่ “สร้างแรงบันดาลใจ” และ “เจ็บปวด” ที่สุดสำหรับคนมีฝัน
[/read]