หนังระทึกขวัญ

เจาะลึก ” หนังระทึกขวัญ ” (Thriller) : เสน่ห์แห่งความตื่นเต้นที่ลุ้นจนนั่งไม่ติดเบาะ

ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญ หรือ Thriller คือหนึ่งในประเภทหนังที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล มันคือศิลปะการเล่าเรื่องที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “เล่น” กับอารมณ์ของผู้ชมโดยตรง โดยมีเป้าหมายหลักคือการสร้างความตื่นเต้น (Thrill), ความลุ้นระทึก (Suspense), ความวิตกกังวล (Anxiety) และความประหลาดใจ (Surprise)! หัวใจสำคัญของหนังระทึกขวัญไม่ใช่การทำให้ “กลัว” จนสุดขีดแบบหนังสยองขวัญ (Horror) แต่เป็นการสร้าง “ความตึงเครียด” ที่ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด หนังจะทำให้เราผูกพันกับตัวละครเอกที่มักจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย คับขัน หรือต้องเผชิญหน้ากับปริศนาที่คุกคามชีวิต โดยมี “เวลา” เป็นเงื่อนไขสำคัญที่บีบคั้นอยู่เสมอ ดูหนังออนไลน์

[read more]

แนวสยองขวัญ (Horror):ถือเป็นแนวที่หนังไทยโดดเด่นและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยการผสมผสานความเชื่อเรื่องผี วิญญาณ และพิธีกรรมตามแบบไทย ๆ ทำให้เกิดความน่ากลัวที่เข้าถึงอารมณ์และวัฒนธรรมของผู้ชม
แนวตลก (Comedy): หนังไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการสร้างอารมณ์ขันที่เข้าถึงง่ายและมักจะสอดแทรกมุกตลกที่อิงกับสถานการณ์หรือกระแสสังคมได้อย่างมีสีสัน
แนวโรแมนติก-ดราม่า (Romantic-Drama):เล่าเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และครอบครัวได้อย่างละเอียดอ่อนและกินใจ มักมีฉากหลังที่เป็นสถานที่สวยงามของประเทศไทย
การสะท้อนสังคม: หลายเรื่องกล้าที่จะนำเสนอประเด็นสังคม การเมือง และความเหลื่อมล้ำได้อย่างตรงไปตรงมา เป็นกระจกสะท้อนปัญหาและความเปลี่ยนแปลงของประเทศ

อะไรทำให้ “ระทึกขวัญ” ไม่เหมือนแนวอื่น?

เน้นความลุ้นระทึก (Suspense) มากกว่าความกลัว (Fear): หนังสยองขวัญอาจใช้ผีหรืออสูรกายทำให้เราตกใจ (Jump Scare) แต่หนังระทึกขวัญจะทำให้เราลุ้นว่า “จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” ตัวเอกจะรอดหรือไม่ หรือใครคือคนร้ายตัวจริง
ตัวเอกที่ต้องต่อสู้: ตัวละครเอกมักจะเป็นคนธรรมดา (หรือผู้มีทักษะ) ที่ต้องใช้ไหวพริบ สติปัญญา หรือพละกำลังเพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยคุกคาม
ภัยคุกคามที่สมจริง (มักจะ): แม้จะมีประเภทย่อยมากมาย แต่ส่วนใหญ่ภัยคุกคามในหนัง Thriller มักจะจับต้องได้ เช่น ฆาตกร, องค์กรลับ, อาชญากร, หรือแม้แต่สภาวะจิตใจของตัวเอง
การหักมุม (Plot Twist): เป็นองค์ประกอบที่พบได้บ่อย สร้างความประหลาดใจและทำให้ผู้ชมต้องคิดตามตลอดทั้งเรื่อง

หนังระทึกขวัญยังมีประเภทย่อยมากมายที่ผสมผสานกับแนวอื่นได้อย่างลงตัว เช่น Psychological Thriller (ระทึกขวัญจิตวิทยา) ที่เน้นความบอบช้ำทางจิตใจ, Crime Thriller (ระทึกขวัญอาชญากรรม) ที่เน้นการสืบสวน, Spy Thriller (ระทึกขวัญสายลับ) และ Supernatural Thriller (ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติ) ในปี 2025 ถือเป็นปีทองของหนังแนวนี้ โดยมีผลงานจากผู้กำกับชื่อดังและนักแสดงแถวหน้าออกมาให้เราได้ลุ้นระทึกกันมากมาย นี่คือ 10 เรื่องเด่นที่คุณไม่ควรพลาดครับ

10 สุดยอดหนังระทึกขวัญ (Thriller) แห่งปี 2025

Black Bag (กระเป๋าปริศนา)

ชื่อเรื่อง: Black Bag
นำแสดงโดย: Cate Blanchett, Michael Fassbender, Marisa Abela, Regé-Jean Page, Pierce Brosnan
ประเภท: Spy Thriller (ระทึกขวัญสายลับ), Marital Drama (ดราม่าชีวิตคู่)
ออกอากาศ: 14 มีนาคม 2025
ผู้กำกับ: Steven Soderbergh
เรื่องย่อ: เรื่องราวของคู่สามีภรรยา (Fassbender และ Blanchett) ที่ทำงานเป็นสายลับในองค์กรเดียวกัน แต่ชีวิตคู่และการงานของพวกเขาต้องพังทลาย เมื่อฝ่ายสามีได้รับมอบหมายให้สืบสวนหาตัว “หนอนบ่อนไส้” ที่ปล่อยข้อมูลลับสุดยอด และภรรยาของเขากลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก
จุดเด่นของหนัง: เป็นการกลับมากำกับหนังสายลับสไตล์เนี้ยบหรูของ Soderbergh ที่เน้นบทสนทนาเชือดเฉือนมากกว่าฉากแอ็กชันตระการตา เคมีที่เข้ากันของ Cate Blanchett และ Michael Fassbender คือหัวใจหลักของเรื่อง
กระแสตอบรับและความนิยม: ได้รับเสียงวิจารณ์ในระดับ “ยอดเยี่ยม” นักวิจารณ์ชื่นชมว่าเป็น “หนังสายลับที่ฉลาดและเซ็กซี่” และ “ดราม่าชีวิตคู่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าหนังสายลับ” (Rolling Stone)
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หากคุณชอบหนังสายลับที่เน้นการชิงไหวชิงพริบ การวางแผนซับซ้อน และการแสดงระดับออสการ์ นี่คือเรื่องที่คุณต้องดู

Sinners (คนบาป)

ชื่อเรื่อง: Sinners
นำแสดงโดย: Michael B. Jordan (รับบทฝาแฝด), Hailee Steinfeld, Jack O’Connell, Delroy Lindo
ประเภท: Supernatural Horror-Thriller (ระทึกขวัญสยองขวัญเหนือธรรมชาติ), Southern Gothic
ออกอากาศ: 7 มีนาคม 2025
ผู้กำกับ: Ryan Coogler
เรื่องย่อ: ในยุค 1930s ณ ดินแดนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมิสซิสซิปปี สองพี่น้องฝาแฝด (Michael B. Jordan) อดีตทหารผ่านศึกและนักค้าของเถื่อน กลับมายังบ้านเกิดเพื่อเปิดบาร์เพลงแจ๊ส แต่พวกเขาต้องพบว่าเมืองนี้ถูกครอบงำโดยอำนาจชั่วร้ายเหนือธรรมชาติ (แวมไพร์) ที่คอยคุกคามผู้คน
จุดเด่นของหนัง: การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของ Michael B. Jordan ที่ต้องเล่นเป็นสองตัวละครฝาแฝด และการที่ผู้กำกับ Ryan Coogler (จาก Black Panther) หันมาทำหนังสยองขวัญเต็มตัว โดยผสมผสานประวัติศาสตร์การเหยียดผิวในยุค Jim Crow เข้ากับตำนานแวมไพร์
กระแสตอบรับและความนิยม: ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในฐานะหนังที่ “ทะเยอทะยาน” และ “ฉีกขนบ” ผสมผสานความสยองขวัญเข้ากับประเด็นสังคมได้อย่างทรงพลัง
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: เป็นการผสมผสานระหว่างความสยองขวัญแบบดิบเถื่อนกับการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในประวัติศาสตร์อันมืดมน นี่คือหนังระทึกขวัญที่มีครบทั้งความลึกซึ้งและฉากชวนสะดุ้ง

The Long Walk (เกมเดินท้าตาย)

ชื่อเรื่อง: The Long Walk
นำแสดงโดย: Cooper Hoffman, David Jonsson, Mark Hamill
ประเภท: Dystopian Survival Thriller (ระทึกขวัญเอาชีวิตรอดในโลกดิสโทเปีย)
ออกอากาศ: 12 กันยายน 2025
ผู้กำกับ: Francis Lawrence
เรื่องย่อ: ดัดแปลงจากนิยายของ Stephen King ในโลกอนาคตอันโหดร้าย มีการแข่งขันประจำปีที่คัดเลือกเด็กหนุ่ม 50 คนมาเข้าร่วม “การเดิน” กฎคือพวกเขาต้องเดินด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 3 ไมล์ต่อชั่วโมง ห้ามหยุด หากช้าลงจะโดน “ตักเตือน” และถ้าครบ 3 ครั้ง พวกเขาจะถูก “ยิงทิ้ง” ทันที ผู้ที่เดินเป็นคนสุดท้ายคือผู้ชนะ
จุดเด่นของหนัง: ความกดดันขั้นสุดที่บีบหัวใจผู้ชม ผู้กำกับ Francis Lawrence (จาก The Hunger Games) ถ่ายทอดความเหนื่อยล้าทางร่างกายและจิตใจของตัวละครออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
กระแสตอบรับและความนิยม: นักวิจารณ์ยกย่องว่านี่คือ “หนึ่งในหนังกระแสหลักที่หดหู่ที่สุดในรอบหลายปี” (The Guardian) และชื่นชมการแสดงของ Cooper Hoffman ที่แบกรับหนังทั้งเรื่องไว้ได้อย่างน่าทึ่ง
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: นี่คือหนังที่ทดสอบจิตใจของผู้ชมอย่างแท้จริง มันไม่ใช่แค่การเอาชีวิตรอด แต่คือการสำรวจมิตรภาพและความบ้าคลั่งของมนุษย์เมื่อถูกบีบให้ถึงขีดสุด

Caught Stealing (เกมขโมยตาย)

ชื่อเรื่อง: Caught Stealing
นำแสดงโดย: Austin Butler, Regina King, Zoë Kravitz, Matt Smith, Liev Schreiber
ประเภท: Black Comedy Crime Thriller (ระทึกขวัญอาชญากรรมตลกร้าย)
ออกอากาศ: 29 สิงหาคม 2025
ผู้กำกับ: Darren Aronofsky
เรื่องย่อ: อดีตนักเบสบอลดาวรุ่งที่ผันตัวมาเป็นบาร์เทนเดอร์ (Austin Butler) ต้องพบกับความซวยที่สุดในชีวิต เมื่อเขาตกลงรับฝากเลี้ยง “แมว” ให้เพื่อนบ้าน แต่กลับพบว่าการรับฝากครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของแก๊งอาชญากรสุดเหี้ยมทั่วทั้งนิวยอร์กโดยไม่รู้ตัว
จุดเด่นของหนัง: การเปลี่ยนแนวทางของผู้กำกับสายหดหู่ Darren Aronofsky (จาก Black Swan) มาทำหนังอาชญากรรมที่ “สนุก” และ “ตลกร้าย” อย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นการโชว์เสน่ห์ดาราของ Austin Butler อย่างเต็มที่
กระแสตอบรับและความนิยม: ได้รับคำชมว่า “นี่คือหนังที่สนุกที่สุดในเครดิตของ Aronofsky” (CultureMap) แม้บางส่วนจะมองว่าเนื้อเรื่องเบาบาง แต่เสน่ห์ของนักแสดงและจังหวะการเล่าเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ก็เอาอยู่
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: ถ้าคุณอยากเห็น Austin Butler หนีตายแบบมีสไตล์ในหนังอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยตัวละครประหลาดและสถานการณ์บ้าบอ นี่คือความบันเทิงชั้นดี

Companion (เพื่อน..ร่วม..ตาย)

ชื่อเรื่อง: Companion
นำแสดงโดย: Sophie Thatcher, Jack Quaid, Lukas Gage, Harvey Guillén
ประเภท: Sci-Fi Thriller, Horror-Comedy (ระทึกขวัญไซไฟ, ตลกร้าย)
ออกอากาศ: 31 มกราคม 2025
ผู้กำกับ: Drew Hancock
เรื่องย่อ: ไอริส (Thatcher) เดินทางไปพักผ่อนสุดสัปดาห์ ณ กระท่อมกลางป่ากับแฟนหนุ่ม (Quaid) และกลุ่มเพื่อนๆ แต่บรรยากาศแห่งความสุขกลับกลายเป็นความโกลาหล เมื่อความลับอันน่าสะพรึงกลัวถูกเปิดเผย และจุดหักมุมแรกก็คือ… ไอริสไม่ใช่คน แต่เธอคือ “หุ่นยนต์แอนดรอยด์” ที่ถูกสร้างมาเพื่อเป็นคู่รัก
จุดเด่นของหนัง: หนังเต็มไปด้วยการหักมุมที่ “คาดไม่ถึง” และ “บ้าคลั่ง” พลิกแนวทางจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งตลอดเวลา (จากหนังรัก, เป็นไซไฟ, เป็นสยองขวัญ, เป็นหนังตลก)
กระแสตอบรับและความนิยม: ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และคำวิจารณ์ (ทำเงินทั่วโลก $36.7 ล้าน จากทุนสร้าง $10 ล้าน) นักวิจารณ์ชื่นชมว่าเป็นหนังม้ามืดที่ “ฉลาด” “ตลกร้าย” และ “สนุกจนเดาทางไม่ได้”
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: เหมาะสำหรับคนที่เบื่อหนังสูตรสำเร็จ นี่คือหนังที่จะทำให้คุณเซอร์ไพรส์ได้ทุก 10 นาที

The Housemaid (ปริศนาคนรับใช้)

ชื่อเรื่อง: The Housemaid
นำแสดงโดย: Sydney Sweeney, Amanda Seyfried, Brandon Sklenar
ประเภท: Psychological Thriller (ระทึกขวัญจิตวิทยา)
ออกอากาศ: ธันวาคม 2025 (ช่วงก่อนคริสต์มาส)
ผู้กำกับ: Paul Feig
เรื่องย่อ: ดัดแปลงจากนิยายเบสต์เซลเลอร์ของ Freida McFadden หญิงสาวผู้มีอดีตอันมืดมน (Sydney Sweeney) ได้รับโอกาสใหม่ในชีวิตเมื่องานเป็นคนรับใช้แบบอยู่ประจำให้กับครอบครัวเศรษฐีที่ดู “สมบูรณ์แบบ” (Amanda Seyfried และ Brandon Sklenar) แต่เธอกลับพบว่าเบื้องหลังความหรูหรานั้นมีความลับอันดำมืดและอันตรายซ่อนอยู่
จุดเด่นของหนัง: การประชันบทบาทสุดบ้าคลั่งของสองนักแสดงหญิงแถวหน้า (Sweeney vs. Seyfried) และการที่ผู้กำกับสายตลก Paul Feig (จาก Bridesmaids) กลับมาทำหนังระทึกขวัญจิตวิทยาสุดตึงเครียดอีกครั้ง (หลังจาก A Simple Favor)
กระแสตอบรับและความนิยม: เป็นหนังที่ถูกคาดหวังสูงมากในช่วงปลายปี ด้วยกระแสความแรงจากนิยายต้นฉบับที่เป็นไวรัล
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: การปะทะกันของ “แม่บ้าน” กับ “นายจ้าง” ที่ต่างก็มีความลับ การชิงไหวชิงพริบในพื้นที่ปิดตายอย่างบ้านหรู รับประกันความตึงเครียดและจุดหักมุมที่น่าติดตาม

After the Hunt (เกมล่าความจริง)

ชื่อเรื่อง: After the Hunt
นำแสดงโดย: Julia Roberts, Andrew Garfield, Ayo Edebiri, Michael Stuhlbarg
ประเภท: Psychological Thriller, Academic Drama (ระทึกขวัญจิตวิทยา, ดราม่าในรั้วมหาวิทยาลัย)
ออกอากาศ: ตุลาคม 2025
ผู้กำกับ: Luca Guadagnino
เรื่องย่อ: ศาสตราจารย์หญิง (Julia Roberts) พบว่าตัวเองต้องอยู่บนทางแยกระหว่างจรรยาบรรณและชีวิตส่วนตัว เมื่อนักศึกษาดาวเด่น (Ayo Edebiri) กล่าวหาเพื่อนร่วมงานของเธอ (Andrew Garfield) ว่าล่วงละเมิดทางเพศ ในขณะเดียวกัน ความลับอันดำมืดในอดีตของเธอก็กำลังจะถูกเปิดโปง
จุดเด่นของหนัง: การรวมตัวของนักแสดง A-List และฝีมือการกำกับของ Luca Guadagnino ที่เน้นการสำรวจจิตใจตัวละครที่ “สีเทา” และเต็มไปด้วยความคลุมเครือทางศีลธรรม
กระแสตอบรับและความนิยม: เสียงวิจารณ์ “แตก” ออกเป็นสองฝั่ง (Metacritic 52/100) แต่ทุกคนเห็นตรงกันว่าการแสดงของ Julia Roberts และ Andrew Garfield นั้น “ยอดเยี่ยม” และ “ทรงพลัง”
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: นี่คือหนังระทึกขวัญสำหรับผู้ใหญ่ ที่ใช้บทสนทนาเป็นอาวุธ ถ้าคุณชอบดราม่าเข้มข้นที่ท้าทายความคิดและไม่ตัดสินตัวละคร นี่คือคำตอบ

The Amateur (สายลับจำเป็น)

ชื่อเรื่อง: The Amateur
นำแสดงโดย: Rami Malek, Rachel Brosnahan, Laurence Fishburne, Jon Bernthal
ประเภท: Spy Thriller, Revenge Thriller (ระทึกขวัญสายลับ, ล้างแค้น)
ออกอากาศ: 11 เมษายน 2025
ผู้กำกับ: James Hawes
เรื่องย่อ: ชาร์ลส์ เฮลเลอร์ (Rami Malek) นักถอดรหัสอัจฉริยะของ CIA ที่ทำงานในห้องใต้ดิน ต้องสูญเสียภรรยาไปจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย เมื่อองค์กรปฏิเสธที่จะตามล่าคนร้าย เขาจึงแบล็กเมล CIA ให้ฝึกเขาเป็นสายลับภาคสนาม เพื่อออกตามล่าล้างแค้นด้วยตัวเอง
จุดเด่นของหนัง: พล็อตเรื่อง “คนธรรมดา” ที่ต้องกลายเป็น “นักฆ่า” เพื่อล้างแค้น ผสมผสานความตื่นเต้นแบบสายลับเข้ากับอารมณ์ความสูญเสีย
กระแสตอบรับและความนิยม: คำวิจารณ์อยู่ในระดับกลางๆ (Rotten Tomatoes 61%) โดยมองว่าพล็อตเรื่องค่อนข้างซ้ำซาก แต่คะแนนฝั่งผู้ชมกลับสูงถึง (88%) โดยชื่นชมการแสดงของ Rami Malek และความมันส์ของฉากแอ็กชัน
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: หากคุณชอบหนังแนวล้างแค้นที่ตัวเอกใช้สมองมากกว่ากำลัง และดู Rami Malek ค่อยๆ เปลี่ยนจากหนุ่มเนิร์ดไปเป็นสายลับ นี่คือหนังที่ตอบโจทย์

Eden (อีเดน)

ชื่อเรื่อง: Eden
นำแสดงโดย: Jude Law, Ana de Armas, Sydney Sweeney, Vanessa Kirby, Daniel Brühl
ประเภท: Survival Thriller, Psychological Thriller (ระทึกขวัญเอาชีวิตรอด, จิตวิทยา)
ออกอากาศ: (เข้าฉายในโรงภาพยนตร์และลงดิจิทัลแล้ว)
ผู้กำกับ: Ron Howard
เรื่องย่อ: สร้างจากเรื่องจริงสุดแปลกประหลาด กลุ่มคนจากยุโรป (นำโดย Jude Law และ Vanessa Kirby) ที่เบื่อหน่ายสังคม ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเกาะร้างห่างไกลในหมู่เกาะกาลาปากอส แต่ “สวรรค์” ของพวกเขากลับกลายเป็น “นรก” เมื่อบารอนเนสลึกลับ (Ana de Armas) พร้อมผู้ติดตาม เดินทางมาถึงเกาะและต้องการสร้างโรงแรมหรู
จุดเด่นของหนัง: การรวมทัพนักแสดงแถวหน้ามาเผชิญชะตากรรมบนเกาะร้าง บรรยากาศของหนังที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากความฝันแบบยูโทเปีย ไปสู่ความหวาดระแวง การทรยศ และการฆาตกรรม
กระแสตอบรับและความนิยม: เสียงวิจารณ์แตกเช่นกัน บางส่วนชื่นชมความกล้าที่นำเสนอเรื่องจริงอัน “ดำมืด” และ “หดหู่” แต่บางส่วนก็มองว่าผู้กำกับ Ron Howard ยังเล่าเรื่องได้ไม่ “บ้าคลั่ง” พอ
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: เป็นส่วนผสมที่แปลกประหลาดระหว่าง Lord of the Flies กับ The Beach ที่คุณจะได้เห็นตัวละครที่ดูดี ค่อยๆ เผยสัญชาตญาณดิบเพื่อเอาตัวรอด

Black Phone 2 (สายหลอน ซ่อนวิญญาณ 2)

ชื่อเรื่อง: Black Phone 2
นำแสดงโดย: Ethan Hawke, Mason Thames, Madeleine McGraw, Jeremy Davies
ประเภท: Supernatural Horror-Thriller (ระทึกขวัญสยองขวัญเหนือธรรมชาติ)
ออกอากาศ: 17 ตุลาคม 2025
ผู้กำกับ: Scott Derrickson
เรื่องย่อ: ภาคต่อที่เกิดขึ้นหลายปีหลังจากภาคแรก ฟินนีย์ และ เกว็น (น้องสาวผู้มีพลังจิต) เติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่น แต่บาดแผลในอดีตยังคงตามหลอกหลอน และแล้วฝันร้ายก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อ “เดอะ แกร็บเบอร์” (Ethan Hawke) กลับมาจากความตายในฐานะวิญญาณอาฆาตที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
จุดเด่นของหนัง: การกลับมาของ Ethan Hawke ในบทบาทฆาตกรสวมหน้ากาก ที่คราวนี้กลายเป็นภัยคุกคามเหนือธรรมชาติเต็มตัว (คล้าย Freddy Krueger) และเน้นการสำรวจผลกระทบทางจิตใจ (Trauma) ที่ตัวละครต้องเผชิญ
กระแสตอบรับและความนิยม: ประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างสูง (ทำเงิน $106 ล้าน จากทุนสร้าง $30 ล้าน) คำวิจารณ์ “ค่อนข้างดี” (RT 72%) ชื่นชมว่าเป็นภาคต่อที่ “หนาวเหน็บ” และยังคงความสยองไว้ได้ แม้จะมีเสียงบ่นว่าหนัง “ยาวเกินไป” (The Guardian)
เหตุผลที่ไม่ควรพลาด: สำหรับแฟนๆ ภาคแรก นี่คือการสานต่อเรื่องราวที่ต้องดู เพื่อดูว่าพี่น้องคู่นี้จะรับมือกับปีศาจที่กลับมาจากนรกได้อย่างไร