Video Sources 46 Views

  • Watch trailer
  • ตัวเล่นหลัก
Lovesick (2025) รักในคำลวง

Lovesick (2025) รักในคำลวง

Lovesick (2025) รักในคำลวงApr. 02, 2025TW111 Min.NR
Your rating: 0
7 1 vote

Synopsis

ดูหนัง Lovesick (2025) รักในคำลวง

นักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งแกล้งทำเป็นป่วยหนักเพื่อไม่ให้ถูกไล่ออก แต่การป่วยหลอกของเขากลับเปิดเผย เมื่อเขาได้สานสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นอีกคนที่ป่วยหนักจริงๆ 🤥💔 บาดแผลจากคำโกหก: รีวิว “Lovesick (2025)” รักในคำลวง – วัยว้าวุ่นกับความจริงที่เจ็บปวด | movie24hd.net สวัสดีคอหนังโรแมนติก-ดราม่าวัยรุ่นทุกคนครับ/ค่ะ! วันนี้ movie24hd.net ขอนำเสนอภาพยนตร์ไต้หวัน/เอเชียที่กำลังมาแรงและเป็นกระแสพูดถึงในกลุ่มผู้ชมทั่วเอเชียอย่าง “Lovesick (2025)” หรือในชื่อไทย “รักในคำลวง” (有病才會喜歡你) ซึ่งกำกับโดย Hsu Fu-Hsiang (许富翔) (เป็นที่รู้จักจากผลงานดราม่าซีรีส์คุณภาพอย่าง The Way We Were) ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หนังรักในรั้วโรงเรียนทั่วไป แต่เป็นการเจาะลึกจิตใจของวัยรุ่นที่ใช้ ‘คำโกหก’ เป็นเกราะกำบังจากโลกที่โหดร้าย

Lovesick (2025)

“Lovesick” เล่าเรื่องราวของ เจย์ (Jay) เด็กนักเรียนตัวปัญหาที่มักใช้ความยียวนและคำโกหกเพื่อหลีกหนีจากชีวิตจริงอันเจ็บปวด โดยเฉพาะปมปัญหาในครอบครัวที่หนักอึ้ง จนกระทั่งการแกล้งป่วยเป็นมะเร็งโดยไม่ตั้งใจ กลับกลายเป็นตั๋ววิเศษที่ทำให้เขามีอิสระและได้รับความเห็นใจจากเพื่อน ๆ แต่คำโกหกนี้ก็นำเขาไปพบกับ เจด (Jade) เด็กสาวผู้ที่กำลังป่วยด้วยโรคร้ายในชีวิตจริง ความสัมพันธ์ที่เบ่งบานภายใต้ ‘คำลวง’ นี้นำมาซึ่งทั้งความโรแมนติกและความเจ็บปวดที่จะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล

🎭 การแสดง: เคมีที่เข้ากันภายใต้ความสับสน

สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีเสน่ห์และน่าติดตามคือการแสดงที่เข้าถึงบทบาทของนักแสดงวัยรุ่น โดยเฉพาะคู่พระ-นาง ที่ต้องแบกรับความตึงเครียดของสถานการณ์ที่ต้อง ‘แกล้ง’ และ ‘ป่วยจริง’

1. Zhan Huai-yun ในบทบาท Jay (เจย์)

Zhan Huai-yun ในบท เจย์ คือหัวใจที่สับสนและขี้เล่นของเรื่องราว เขาเริ่มต้นด้วยการเป็น ‘ตัวตลกประจำห้อง’ (Class Clown) ที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และพลังงานที่ล้นเหลือ

  • พลังงานที่เข้าถึงได้: ในช่วงแรก Zhan ถ่ายทอดบุคลิกของวัยรุ่นผู้ก่อความวุ่นวายได้อย่างมีชีวิตชีวา แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความลึกซึ้งทางอารมณ์ก็เริ่มปรากฏ การแสดงความขัดแย้งภายในใจของ เจย์ ที่ต้องรักษาสถานะ ‘คนป่วย’ ปลอม ๆ ไว้ เพื่อหลีกหนีความจริงของครอบครัวนั้น น่าเชื่อถือและน่าเห็นใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะฉากที่เขาต้องเผชิญหน้ากับ เจด และรับรู้ถึงน้ำหนักของคำโกหกของเขา Zhan สามารถถ่ายทอดความรู้สึกผิดและความเปราะบางออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากตักเตือนและเอาใจช่วยเขาไปพร้อมกัน

2. Victoria Chiang (Jiang Qi) ในบทบาท Jade (เจด)

 

Victoria Chiang ในบท เจด คือตัวแทนของ ‘ความจริงที่เจ็บปวด’ และ ‘ความบริสุทธิ์’ เธอเป็นตัวละครที่มีความอ่อนโยนและแสนเศร้า ที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายในชีวิตจริง

  • ความนิ่งที่กินใจ: Chiang นำเสนอตัวละคร เจด ด้วยความนิ่งสงบและอ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความเข้มแข็งภายใน การรับส่งบทบาทกับ Zhan ในฐานะคนที่กำลังตกหลุมรักคนที่ใช้ ‘อาการป่วย’ เป็นเรื่องโกหกนั้น มีเคมีที่เข้ากันอย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากโรแมนติกที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความไม่แน่นอน ความสัมพันธ์ของพวกเขาที่ค่อย ๆ เบ่งบานนั้นถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์และทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพัน

3. นักแสดงสมทบ: สีสันและมิติที่ซ่อนเร้น

  • Huang Guan-zhi ในบท TD: เพื่อนซี้และแหล่งรวมข่าวซุบซิบนินทาของโรงเรียน Huang มอบความสนุกสนานและเป็น ‘จังหวะตลก’ (Comic Heartbeat) ของภาพยนตร์ได้อย่างสม่ำเสมอ พลังงานของเขานำมาซึ่งเสียงหัวเราะที่จำเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางดราม่าที่หนักอึ้ง

  • Hsiu-Fu Liu ในบท Chen: บทบาทของ เฉิน อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่เขานำมาซึ่งความลึกซึ้งและความเปราะบางที่เงียบงันในบางช่วงของเรื่อง ซึ่งช่วยเสริมมิติให้กับฉากหลังของโรงเรียนได้ดี

🎨 งานภาพและโปรดักชั่น: สไตล์ Campus Romance ที่มีเสน่ห์

ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้สไตล์การถ่ายทำแบบภาพยนตร์รักวัยรุ่นของไต้หวันคลาสสิก แต่มีการอัปเกรดงานโปรดักชั่นให้ดูทันสมัยและมีชีวิตชีวามากขึ้น

1. สไตล์ภาพและสี (Visual Language)

  • ความสดใสของวัยเรียน: “Lovesick” ใช้โทนสีที่สดใสในฉากโรงเรียนและสถานที่ออกเดท เพื่อสะท้อนความตื่นเต้นของความรักครั้งแรก การถ่ายภาพ (Photography) มีความสะอาดตาและเป็นมิตรกับผู้ชม (Clean Photography) ทำให้เรื่องราวดูเหมือน ‘กึ่งแฟนตาซีในฉากจริง’ ซึ่งเป็นสไตล์ที่เข้ากันได้ดีกับดราม่าวัยรุ่น

2. การกำกับและเทคนิคพิเศษ

  • การเล่าเรื่องผ่านมุมมอง: ผู้กำกับ Hsu Fu-Hsiang ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องที่หลากหลาย เช่น เสียงบรรยาย (Voice-over) ของตัวละครหลัก และการใช้เทคนิคภาพที่น่าสนใจ เช่น Split Screen หรือ Visual Effects ในบางช่วง เพื่อให้ภาพยนตร์มีความทันสมัยและสอดคล้องกับความคิดที่ฟุ้งซ่านของวัยรุ่น การใช้เทคนิคเหล่านี้ช่วยเบลอเส้นแบ่งระหว่าง ‘จินตนาการ’ และ ‘ความเป็นจริง’ ซึ่งสอดคล้องกับธีมหลักของคำโกหกและการหลีกหนีความจริงของ เจย์

3. เพลงประกอบ (Soundtrack)

เพลงประกอบในภาพยนตร์มีบทบาทสำคัญในการสร้างอารมณ์ โดยเฉพาะเพลงรักที่ช่วยขับเน้นความรู้สึกโรแมนติกที่เกิดขึ้นระหว่าง เจย์ และ เจด มีการใช้เพลงประกอบที่ติดหูและสอดแทรกฉากที่เกือบจะเป็น ‘Musical Number’ สั้น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของผู้กำกับที่มีพื้นฐานด้านโฆษณาและมิวสิควิดีโอ

📝 เนื้อหาและการตีความ: คำโกหกที่เปิดโปงความจริง

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีแกนหลักที่น่าสนใจอย่างยิ่งในทางทฤษฎี: “ตัวละครหนึ่งแกล้งป่วย ในขณะที่อีกตัวละครป่วยจริง” ซึ่งสร้างแรงกดดันทางอารมณ์และศีลธรรมได้อย่างดี

1. พลังของคำโกหก (The Power of Deception)

  • เกราะป้องกัน: คำโกหกของ เจย์ ในการแกล้งป่วยมะเร็งไม่ได้เป็นเพียงการหลีกหนีชั้นเรียน แต่เป็นการแสดงออกถึง ความพยายามที่จะถูกมองเห็นและได้รับการดูแลเอาใจใส่ ที่เขาไม่ได้รับจากครอบครัว ภาพยนตร์นำเสนออย่างชัดเจนว่าการหลอกลวงนี้ทำให้เขาได้รับความเห็นใจและ “พื้นที่” ที่เขาปรารถนา

2. จุดเปลี่ยนสู่ดราม่าและปัญหาในการจัดการตอนจบ

แม้ว่าช่วงกลางเรื่องที่เน้นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง เจย์ และ เจด จะทำได้อย่างมีเสน่ห์และเต็มไปด้วยอารมณ์ (โดยเฉพาะฉากตบที่กลายเป็นไฮไลต์ทางอารมณ์) แต่นักวิจารณ์หลายคนชี้ให้เห็นว่าภาพยนตร์มีปัญหาในการจัดการกับ บทสรุป

  • ความเยิ่นเย้อและเมลโลดราม่า (Overly Melodramatic Final Act): เมื่อเรื่องราวหลุดพ้นจากรั้วโรงเรียนและ คำโกหก ถูกเปิดโปง ภาพยนตร์กลับเข้าสู่โหมด ‘ดราม่าเต็มรูปแบบ’ ที่ดู ‘ยืดเยื้อ’ และ ‘จัดการได้ไม่ดี’ นัก การแก้ไขปมปัญหาดูไม่สมดุล บางประเด็นที่สำคัญในช่วงแรก เช่น ปมครอบครัวของ เจย์ หรือบทบาทของป้าที่ดูแลเขา กลับถูกทอดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย

  • ประเด็นที่ค้างคา: ธีมหลักของการที่คนหนึ่งแกล้งป่วยและอีกคนป่วยจริง แม้จะน่าสนใจในแง่ทฤษฎี แต่กลับไม่ถูกพัฒนาให้ถึงขีดสุดเท่าที่ควร การที่ เจย์ ต้องรับมือกับการสารภาพความจริงและผลที่ตามมานั้น ถูกนำเสนออย่างยาวนานและทำให้ภาพยนตร์เสียจังหวะไปบ้าง

🌐 สรุปความประทับใจจาก movie24hd.net

“Lovesick (2025)” หรือ “รักในคำลวง” คือภาพยนตร์โรแมนติก-ดราม่าวัยรุ่นที่เริ่มต้นได้อย่างแข็งแกร่งและมีเคมีของนักแสดงนำที่น่าประทับใจ การนำเสนอธีมของการใช้ ‘คำโกหก’ เป็นเกราะกำบังในโลกวัยเรียนนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและเข้าถึงได้ง่าย

แม้จะมีข้อบกพร่องในบทสรุปที่ดูยืดเยื้อและขาดความสมดุลไปบ้าง แต่ด้วยการแสดงที่มีเสน่ห์ของ Zhan Huai-yun และ Victoria Chiang รวมถึงสไตล์การกำกับที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของ Hsu Fu-Hsiang ก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงเป็นหนึ่งในหนังรักในโรงเรียนที่มีรสชาติจัดจ้านและคุ้มค่าแก่การรับชมสำหรับแฟน ๆ หนังแนวนี้ครับ/ค่ะ 🎬 บทสรุป: ดราม่าวัยเรียนที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยเคมีที่เข้ากัน แต่บทสรุปที่ยืดเยื้อทำให้รสชาติของหนังเจือจางลงไปบ้าง คุณอยากให้เราแนะนำภาพยนตร์แนว ‘Campus Romance’ ยอดนิยมของไต้หวันเรื่องอื่น ๆ ที่มีปมดราม่าคล้ายกันไหมครับ  movie24hd

Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Lovesick (2025) รักในคำลวง
Original title ดูหนัง Lovesick (2025) รักในคำลวง
IMDb Rating 6.6 339 votes
TMDb Rating 7.143 7 votes

Director

Cast

詹懷雲 isYe Zijie / Jay
Ye Zijie / Jay
江齊 isYe Zijie / Jade
Ye Zijie / Jade
劉修甫 isChen Li
Chen Li
黃冠智 isTu Yudou / TD
Tu Yudou / TD
馬志翔 isJade's Dad
Jade's Dad
楊千霈 isJade's Mom
Jade's Mom
百白 isMs. Bai
Ms. Bai
宮能安 isMr. Gong
Mr. Gong
林思宇 isJay's Aunt
Jay's Aunt
劉泯廷 isDr. Ouyang
Dr. Ouyang

Similar titles

Sisterhood Inc (2025)
Virus (2025) ไวรัส
Anuja (2025) อนุจา น้องสาวของทุกคน
A Merry Little Ex-Mas (2025) คริสต์มาสป่วนรัก
Flat Girls (2025) แฟลตเกิร์ล ชั้นห่างระหว่างเรา
K.O. (2025) น็อกเอาท์
Huang Feihong The Black Yamen (2025) ที่ว่าการหวงเฟยหง
Brownsville Bred (2025)
The Kiss of A Vampire (2025)
William Tell (2025)
Tomb Raiders Secrets of Tianxing Tomb (2025) ปล้นสุสานเทียนซิง
Marcel the Shell with Shoes On (2021) มาร์เซล หอยจิ๋วกับรองเท้าคู่ใจ