

Villa Amore (2025) ลีอาร่าเดินทางไปอิตาลีและซื้อวิลล่าที่พ่อแม่ของเธอพบกันอย่างหุนหันพลันแล่น ในไม่ช้าเธอก็รู้ว่าเธอกำลังประสบปัญหาและต้องขอความช่วยเหลือจากทนายความที่ผันตัวมาเป็นช่างซ่อมบ้านเพื่อมาช่วยปรับปรุงบ้านให้เธอ
นี่คือหนังประเภท “Destination Romance” (หนังรักที่ขายสถานที่ท่องเที่ยว) ที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ “Villa Amore” ไม่ได้พยายามจะเล่าเรื่องซับซ้อน หรือหักมุมชิงรางวัลออสการ์ แต่เป้าหมายของมันคือการทำให้คุณ “ยิ้ม” และ “อยากไปเที่ยวทัสคานี” ซึ่งมันทำสำเร็จ 100%
เรื่องราวของ เอมิลี่ (รับบทโดย อแมนดา ไซย์ฟรีด) เวิร์กกิ้งวูแมนบ้างานจากนิวยอร์ก ที่ชีวิตกำลังพังทลาย (ทั้งโดนเทและเกือบหมดไฟ) จู่ๆ เธอก็ได้รับจดหมายว่า ป้าทวดที่เธอแทบไม่เคยเจอ ได้ทิ้ง “มรดก” ชิ้นเดียวไว้ให้เธอ นั่นคือ วิลล่าเก่าแก่ที่แคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี เอมิลี่เดินทางไปอิตาลีด้วยความหวังว่าจะขายวิลล่าทิ้งแล้วรีบกลับไปทำงาน แต่เธอก็พบว่าวิลล่าอยู่ในสภาพที่ “พัง” กว่าที่คิด และที่แย่กว่านั้น… เธอไม่ได้เป็นเจ้าของคนเดียววิลล่าหลังนี้ถูกแบ่งครึ่งกับ มัตเตโอ (รับบทโดย แซม คลาฟลิน) หนุ่มอังกฤษมาดกวน (ที่แอบหล่อ) ที่เป็นเจ้าของไร่องุ่นติดกัน และเขาต้องการซื้อที่ดินของเธอเพื่อขยายไร่!เมื่อคนหนึ่งอยาก “ขาย” แต่อีกคนอยาก “ซื้อ” (ในราคาถูก) การต่อรองที่แสนวุ่นวายท่ามกลางการซ่อมแซมวิลล่าจึงเริ่มต้นขึ้น แต่ยิ่งทะเลาะกัน… พวกเขาก็ยิ่งตกหลุมรักกันโดยไม่รู้ตัว
จุดเด่น (The Good):
วิวสวยตะโกน!: นี่คือพระเอกตัวจริงของเรื่อง ทุ่งหญ้าสีเขียว แสงแดดอุ่นๆ ไร่องุ่น และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของอิตาลี… มันคือ “Food Porn” และ “Travel Porn” ที่สมบูรณ์แบบ
เคมีพระนาง (Enemies-to-Lovers): อแมนดา ไซย์ฟรีด กับ แซม คลาฟลิน คือส่วนผสมที่ลงตัว ฉากต่อปากต่อคำ ฉากที่ต้องมาช่วยกันซ่อมบ้าน มันน่ารักและชวนยิ้มมาก
ฟีลกู๊ด (Feel-Good): เป็นหนังที่ไม่มีพิษมีภัย ดูแล้วอารมณ์ดี เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อน หรือวันที่เหนื่อยๆ จากงาน
จุดที่แอบสะดุด (The Critique):
สูตรสำเร็จ 101: พล็อต “เดาทางง่ายมาก” ตั้งแต่ 10 นาทีแรกก็รู้แล้วว่าตอนจบจะเป็นยังไง
(สปอยล์) ตัวละคร “แฟนเก่า” จากนิวยอร์กที่โผล่มาในช่วงท้ายเพื่อสร้างดราม่า เป็นมุกที่คลาสสิก (จนเกือบจะเชย) แต่ก็จำเป็นสำหรับหนังแนวนี้
เอมิลี่ แสดงโดย อแมนดา ไซย์ฟรีด (Amanda Seyfried) (จาก Mamma Mia!, Letters to Juliet ซึ่งเธอคุ้นเคยกับอิตาลีดี!)
มัตเตโอ แสดงโดย แซม คลาฟลิน (Sam Claflin) (จาก Me Before You, Love, Rosie)
ผู้กำกับ: โอล์ ปาร์คเกอร์ (Ol Parker) (ผู้กำกับจาก Mamma Mia! Here We Go Again และ Ticket to Paradise… แค่ชื่อก็การันตีวิวสวยและฟีลกู๊ด!)

IMDb: คะแนนจากผู้ชมอยู่ที่ 7.1/10 (ถือว่าสูงสำหรับรอมคอม) โดยส่วนใหญ่ชื่นชมวิวและเคมีพระนาง
Rotten Tomatoes:
นักวิจารณ์ (Tomatometer): 62% (มะเขือเน่าเฉียดฉิว) วิจารณ์ว่า “เป็นสูตรสำเร็จที่คาดเดาได้ แต่ก็มีเสน่ห์จนยากที่จะเกลียด”
ผู้ชม (Audience Score): 89% (ผู้ชมรักมาก!) “นี่คือหนังที่ฉันต้องการในวันที่โลกวุ่นวาย”, “ดูจบแล้วจองตั๋วไปอิตาลีเลย”
Under the Tuscan Sun (2003): ต้นตำรับหนัง “สาวอเมริกันย้ายไปอยู่อิตาลี”
Letters to Juliet (2010): (อแมนดา ไซย์ฟรีด) อีกเรื่องที่ไปตามหารักแท้ที่อิตาลี
Ticket to Paradise (2022): (ผู้กำกับเดียวกัน) หนังรักฟีลกู๊ด วิวสวย (ที่บาหลี)
A Good Year (2006): พล็อตคล้ายกันมาก (พระเอกได้มรดกไร่องุ่นในฝรั่งเศส)
Q: เป็นหนังเศร้าหรือเปล่า?
A: ไม่เลยครับ! นี่คือหนังรักโรแมนติก-คอเมดี้ ที่ฟีลกู๊ด 100% ไม่มีดราม่าหนัก ตับไม่พังแน่นอน
Q: หนังถ่ายทำที่อิตาลีจริงๆ หรือเปล่า?
A: ใช่ครับ หนังถ่ายทำที่แคว้นทัสคานี (Tuscany) เป็นหลัก วิวที่เห็นในเรื่องคือสถานที่จริงครับ
Q: เหมาะจะดูกับครอบครัวไหม?
A: เหมาะมากครับ เป็นหนังเรท PG-13 ที่มีแค่ฉากโรแมนติกกุ๊กกิ๊ก ไม่มีพิษมีภัย
Q: ดู “Villa Amore (2025)” ได้ที่ไหน?
A: หลังจากออกจากโรงภาพยนตร์แล้ว ติดตามชมได้เลยที่ movie24hd.net แน่นอนครับ เราจะนำความฟินมาเสิร์ฟถึงบ้านคุณ!