รีวิวหนัง Sicario (2015) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด การอุบัติของมหากาพย์อาชญากรรมเหนือพรมแดนและความล่มสลายของอุดมการณ์! ในบรรดาภาพยนตร์แนวอาชญากรรมระทึกขวัญ (Crime Thriller) ร่วมสมัยที่มุ่งสำรวจสงครามยาเสพติดระหว่างพรมแดนสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก Sicario (2015) ผลงานการกำกับของ เดอนี วีลเนิฟ (Denis Villeneuve) ภายใต้บทภาพยนตร์ที่เฉียบคมของ เทเลอร์ เชอริแดน ยืนตระหง่านในฐานะ “แถลงการณ์ทางภาพยนตร์” ที่รื้อสร้างมายาคติเรื่องความเป็นธรรมและความยุติธรรมอย่างถอนรากถอนโคน ภาพยนตร์เรื่องนี้มิใช่เพียงหนังแอ็กชันไล่ล่าขบวนการค้ายาเสพติดทั่วไป ทว่ามันคือบทวิเคราะห์ทางปรัชญาว่าด้วย “ความชั่วร้ายที่จำเป็น” (Necessary Evil) และการสูญเสียเข็มทิศทางศีลธรรมในโลกที่ไร้กฎเกณฑ์
Sicario ก้าวข้ามขอบเขตของหนังแนวตำรวจจับผู้ร้าย สู่การเป็น “บทบันทึกความตึงเครียดเชิงสถาปัตยกรรม” ที่ใช้ความเงียบ แสง และเงา เป็นเครื่องมือในการกดทับโสตประสาทของผู้ชม บทวิพากษ์ฉบับนี้จะเจาะลึกองค์ประกอบทางศิลป์อย่างละเอียด ทั้งในมิติของเนื้อเรื่องที่วิพากษ์นโยบายรัฐ, สุนทรียศาสตร์ทางภาพที่นิยามความตายผ่านทัศนียภาพ และการแสดงระดับมาสเตอร์พีซที่สะท้อนถึงความว่างเปล่าและความพยาบาทได้อย่างเยือกเย็นที่สุดในทศวรรษ

ความอัจฉริยะประการแรกของบทภาพยนตร์คือการใช้ “มุมมองของผู้สังเกตการณ์ที่ไร้อำนาจ” ผ่านตัวละคร “เคท เมเซอร์” เจ้าหน้าที่ FBI ผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์ทางกฎหมาย เพื่อพาผู้ชมเข้าไปสู่ใจกลางของ “พื้นที่สีเทา” ที่กฎหมายเข้าไม่ถึง
การเดินทางสู่หุบเขาแห่งเงา (The Descent into the Shadow)
โครงสร้างการเล่าเรื่องของ Sicario ดำเนินไปตามครรลองของ “การสูญเสียความไร้เดียงสา” (The Loss of Innocence):
ความลวงของหน้าที่การงาน: เนื้อเรื่องวางรากฐานความขัดแย้งระหว่าง “ระเบียบวิธีปฏิบัติ” (Protocol) ของเคท และ “ปฏิบัติการนอกรีต” (Black Ops) ของแมตต์ เกรเวอร์ และอเลฮานโดร บทภาพยนตร์ฉลาดในการไม่บอกความจริงแก่ตัวละครเอกและผู้ชมตั้งแต่ต้น แต่ค่อยๆ กะเทาะเปลือกออกให้เห็นว่า ภารกิจนี้มิได้ทำเพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไป แต่ทำเพื่อ “จัดระเบียบ” ความรุนแรงให้อยู่ในจุดที่รัฐสามารถควบคุมได้
ความย้อนแย้งเชิงจริยธรรม: สารัตถะที่สำคัญที่สุดคือการตั้งคำถามว่า “เราสามารถใช้วิธีการของปีศาจเพื่อปราบปีศาจได้หรือไม่?” การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับการมีอยู่ของ Sicario (มือสังหาร) เพื่อรักษาดุลอำนาจ คือการตบหน้าแนวคิดประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมอย่างรุนแรง เนื้อเรื่องไม่ได้มอบบทสรุปที่เป็นสุข แต่ทิ้งให้ผู้ชมเผชิญกับความจริงที่ว่า ในโลกของหมาป่า ผู้ที่เป็นลูกแกะย่อมไม่มีที่ยืน
ความเงียบในฐานะบทสนทนา
เทเลอร์ เชอริแดน เขียนบทโดยเน้นการใช้สถานการณ์บีบคั้นมากกว่าบทพูดที่พรั่งพรู ทุกจังหวะของเนื้อเรื่องถูกวางไว้อย่างรอบคอบเพื่อสะสมความรู้สึก “ไม่น่าไว้วางใจ” ซึ่งนำไปสู่บทสรุปที่แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังของความยุติธรรมในอุดมคติ
งานด้านสุนทรียศาสตร์ของ Sicario คือชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของ โรเจอร์ ดีกินส์ (Roger Deakins) ผู้กำกับภาพระดับตำนาน ที่สามารถเนรมิตทัศนียภาพของพรมแดนให้กลายเป็น “สมรภูมิทางจิตวิญญาณ”
สุนทรียศาสตร์แห่งความแห้งแล้งและอันตราย (Aesthetics of Desolation)
ภูมิศาสตร์แห่งความตาย: ดีกินส์ใช้ภาพมุมกว้าง (Wide Shots) ของทะเลทรายชิวาวาและพรมแดนฮัวเรซเพื่อสร้างความรู้สึกว่ามนุษย์นั้นช่างเล็กจ้อยและไร้ทางสู้ท่ามกลางความว่างเปล่า แสงแดดที่แผดเผาจนภาพดูซีดเซียว (High-contrast, Desaturated tones) สื่อถึงภาวะความรุนแรงที่สถิตอยู่ทั่วทุกหัวระแหง
นาฏกรรมของแสงและเงา (The Border Sequence): ฉากการเดินทางข้ามพรมแดนที่สะพานลานอร์เต คือมาสเตอร์คลาสของการจัดวางองค์ประกอบภาพ (Composition) การใช้มุมกล้องมุมสูง (Bird’s-eye view) สลับกับการถ่ายภาพระยะใกล้ที่จับจ้องความเครียดบนใบหน้าตัวละคร สร้างความตึงเครียดที่จับต้องได้จริง (Visceral Tension) โดยแทบไม่ต้องมีการใช้ดนตรีประกอบเร้าอารมณ์
นวัตกรรมของภาพถ่ายความร้อนและนัยน์ตาปีศาจ: ฉากการจู่โจมในอุโมงค์ท้ายเรื่องที่ใช้กล้องอินฟราเรด (Infrared) และกล้องส่องกลางคืน (Night Vision) คือการสร้างภาษาภาพที่สื่อถึงการเข้าสู่โลกที่มืดบอดทางศีลธรรม มนุษย์ถูกลดทอนความเป็นตัวตนเหลือเพียง “โครงร่างความร้อน” ที่พร้อมจะถูกดับทำลาย เป็นนวัตกรรมทางภาพที่สะท้อนถึงความเป็นเครื่องจักรสังหารได้อย่างดีเยี่ยม

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Sicario กลายเป็นอมตะคือการประชันบทบาทของนักแสดงนำสามท่านที่มอบการแสดงในระดับ “นาฏกรรมแห่งความเงียบ” และการสื่อสารผ่านสัญชาตญาณ
เบนิซิโอ เดล โตโร (Benicio del Toro) ในบท อเลฮานโดร: บารมีแห่งความพยาบาท
เดล โตโร มอบการแสดงที่เป็น “หัวใจมืด” (The Dark Heart) ของภาพยนตร์:
ความนิ่งที่น่าสะพรึงกลัว: เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ผ่านการตะคอกหรือท่าทางที่ก้าวร้าว แต่เขาใช้ “ความนิ่ง” และสายตาที่ผ่านโลกมาอย่างชอกช้ำ อเลฮานโดรเป็นตัวละครที่มีรังสีของความตายปกคลุมอยู่ตลอดเวลา ฉากสุดท้ายในบ้านของเจ้าพ่อค้ายาคือบทพิสูจน์ถึงพลังการแสดงที่เย็นเยียบและไร้ความปราณี ซึ่งตอกย้ำว่าเขาคือ “ปีศาจ” ที่ถูกสร้างขึ้นจากกองเพลิงของสงครามยาเสพติด
เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) ในบท เคท เมเซอร์: ตัวแทนของศีลธรรมที่แตกสลาย
บลันต์มอบการแสดงที่เป็น “เข็มทิศ” ให้แก่ผู้ชม:
ความแข็งแกร่งที่เปราะบาง: เธอถ่ายทอดบทเจ้าหน้าที่ผู้มีความสามารถแต่กลับต้องกลายเป็น “ตัวหมาก” ได้อย่างน่าเห็นใจ แววตาที่สับสน หวาดกลัว และความพยายามที่จะยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องท่ามกลางพายุแห่งความฉ้อฉล คือศูนย์กลางทางอารมณ์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมได้อย่างลึกซึ้ง
จอร์ช โบรลิน (Josh Brolin) ในบท แมตต์ เกรเวอร์: อัตตาของรัฐ
โบรลินแสดงเป็นตัวแทนของความไร้จริยธรรมที่มีเหตุผลรองรับได้อย่างยอดเยี่ยม บุคลิกที่ดูผ่อนคลาย สวมรองเท้าแตะแต่สั่งฆ่าคนได้อย่างไม่กะพริบตา คือภาพจำของ “อำนาจมืดของรัฐ” ที่มองเห็นความตายเป็นเพียงสถิติและการจัดการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์

Sicario (2015) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด มิใช่เพียงภาพยนตร์ระทึกขวัญที่เน้นความตื่นเต้นชั่วครั้งชั่วคราว แต่มันคือ “จดหมายเหตุเชิงวิพากษ์” (Critical Archive) ที่แสดงให้เห็นถึงโฉมหน้าที่แท้จริงของสงครามยาเสพติดที่ไม่มีวันชนะ เดอนี วีลเนิฟ ประสบความสำเร็จในการสร้างภาพยนตร์ที่ “งดงามในความสยดสยอง” และ “ลุ่มลึกในความว่างเปล่า” ในเชิงเนื้อเรื่อง มันคือการชันสูตรศพของอุดมการณ์ประชาธิปไตย, ในเชิงภาพ มันคืองานศิลปะที่บันทึกความตึงเครียดผ่านแสงสีที่วิจิตรบรรจง และในเชิงการแสดง เบนิซิโอ เดล โตโร ได้สถาปนาภาพจำของมือสังหารที่เป็นผู้ถูกกระทำจากระบบได้อย่างตราตรึง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทิ้งท้ายด้วยสัจธรรมที่โหดร้ายที่สุดว่า “ในโลกใบนี้ไม่มีที่สำหรับลูกแกะอีกต่อไป มีเพียงหมาป่าที่จะอยู่รอด” Sicario จึงเป็นผลงานที่สง่างาม ลุ่มลึก และเป็นหมุดหมายสำคัญที่เตือนใจเราว่า ความสงบสุขที่เราเสพอยู่นั้น อาจแลกมาด้วยความเลือดเย็นที่ข้ามพ้นพรมแดนแห่งมนุษยธรรมไปนานแล้ว ก้าวต่อไปที่คุณอาจสนใจ: หากคุณประทับใจในสไตล์การกำกับที่เน้นความตึงเครียดของ เดอนี วีลเนิฟ คุณต้องการให้ผมวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การใช้ดนตรีประกอบ (Score) โดย Jóhann Jóhannsson” เพื่อสร้างบรรยากาศกดประสาท หรือต้องการให้เปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่นใน “Trilogy of the Frontier” ของเทเลอร์ เชอริแดน อย่าง Hell or High Water หรือไม่ครับ? รับชมหนัง Sicario (2015) ทีมพิฆาตทะลุแดนเดือด ได้ที่ movie24hd